เอกสารประกอบการเรียนกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเครื่องหมายลูกเสือโลก
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านอรุโณทัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากมีนักเรียนจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 34 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1)เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 เล่ม 2) 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบประเภทปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 3). แบบวัดความพึงพอใจที่ได้สร้างขึ้นตามวิธีการของลิเคอร์ท (Likert) แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการศึกษา 1). การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีหาค่าสถิติวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ โดยใช้สูตรการหาประสิทธิภาพ E1/E2 2) การวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้วิธีหาค่าสถิติวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ผลต่างของค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละหลักการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน t-test (t-Dependent) 3). วิเคราะห์ข้อมูลในแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยใช้ค่าเฉลี่ย(Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)
จากรายงานผลการศึกษา พบว่า 1). ได้ชุดเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 ชุด ใช้เวลาในการพัฒนา จำนวน 20 ชั่วโมง และเอกสารประกอบการเรียนมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.74/80.18 2). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของลูกเสือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3). ลูกเสือมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( = 3.92)
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ประชากรและกลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านอรุโณทัย สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา สุราษฎร์ธานี เขต 2 ได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากมีนักเรียนจำนวน 1 ห้องเรียน จำนวน 34 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1)เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 เล่ม 2) 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เป็นแบบทดสอบประเภทปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 50 ข้อ 3). แบบวัดความพึงพอใจที่ได้สร้างขึ้นตามวิธีการของลิเคอร์ท (Likert) แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ สถิติที่ใช้ในการศึกษา 1). การวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้วิธีหาค่าสถิติวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละ โดยใช้สูตรการหาประสิทธิภาพ E1/E2 2) การวิเคราะห์ข้อมูลผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ใช้วิธีหาค่าสถิติวิเคราะห์ คือ ค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D) ค่าเฉลี่ยร้อยละของคะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน ผลต่างของค่าเฉลี่ย ค่าเฉลี่ยร้อยละหลักการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน t-test (t-Dependent) 3). วิเคราะห์ข้อมูลในแบบวัดความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน โดยใช้ค่าเฉลี่ย(Mean) และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)
จากรายงานผลการศึกษา พบว่า 1). ได้ชุดเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 13 ชุด ใช้เวลาในการพัฒนา จำนวน 20 ชั่วโมง และเอกสารประกอบการเรียนมีประสิทธิภาพเท่ากับ 81.74/80.18 2). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของลูกเสือชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3). ลูกเสือมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน เรื่อง เครื่องหมายลูกเสือโลก กิจกรรมพัฒนาผู้เรียนลูกเสือสามัญรุ่นใหญ่ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ในภาพรวมอยู่ในระดับ มาก ( = 3.92)