รายงานการใช้เอกสารประกอบการเรียน ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล
(พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้รายงาน นายวิทยา แก้วโสดา ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านโคกสำราญ
ปีที่รายงาน พ.ศ. 2561
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนและหลังการใช้เอกสารประกอบการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา(พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อศึกษาเจตคติของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียน
บ้านโคกสำราญ สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3 จำนวน 26 คน ซึ่งได้จากการสุ่มตัวอย่างโดยใช้โรงเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่
1) เอกสารประกอบการเรียน จำนวน 17 เล่ม 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 3) แบบประเมินเจตคติของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและ
พลศึกษา (พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.15/80.22 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ทุกเล่ม
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา)
ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ผลการทดสอบมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละ 83.72 ซึ่งหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. เจตคติของนักเรียน ที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้
สุขศึกษาและพลศึกษา (พลศึกษา) ชุด เกมนำไปสู่กีฬาฟุตบอล ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีค่าเฉลี่ยอยู่ในระดับมากที่สุด