รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
ผู้วิจัย นางสำรวม แก้วคง
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
จากผลคะแนนการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐานหรือโอเน็ต (Ordinary National Educational Test: O-NET) ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 แต่ละปีการศึกษาที่พบว่า คะแนนเฉลี่ยรายวิชาภาษาอังกฤษค่อนข้างต่ำ เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าวการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยการใช้การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือกันเรียนรู้ด้วยเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลา ผู้วิจัยเห็นว่าการอ่านเป็นกระบวนการหนึ่งที่มีความสำคัญทางภาษา การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจด้วยการเรียนรู้แบบร่วมมือโดยใช้เทคนิค STAD ที่ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ รายวิชา อ33101 ภาษาอังกฤษ5 ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ก่อนเรียนและหลังเรียน 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัย คือ นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนมหาวชิราวุธ จังหวัดสงขลาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเขต 16 จำนวนนักเรียน 40 คน ซึ่งใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เพื่อความสะดวกในการศึกษาข้อมูลงานวิจัยมา 1 ห้องเรียน และได้ห้องเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6/7 ใช้แบบแผนการวิจัยแบบ One Group Pre-test Post-test Design เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ได้แก่1)แบบฝึกเสริมทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา อ33101 จำนวน 18 ชั่วโมง 3) แบบทดสอบวัดการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ จำนวน 40 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ 1.07สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่า t-test แบบ Dependent Samplesและ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจรายวิชา อ33101 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 1.07