การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำ
หัวข้อที่ศึกษา การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำ ตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวสุพัตรา ปทุมคณารักษ์
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกดให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในอำเภอทับปุด จำนวน 2 โรงเรียน 3 ห้องเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 63 คน ทำการสุ่มโรงเรียน โดยใช้วิธี การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนวัดนิโครธคุณากร จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และ 3. แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ที่ได้พัฒนาประสิทธิภาพ พบว่า เท่ากับ 81.20/83.52 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80 จึงแสดงว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกดที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.23 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.03 คิดเป็นร้อยละ 30.78 ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.05 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.29 คิดเป็นร้อยละ 83.52 ดังนั้น การเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.74, S.D. = 0.22)
ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวสุพัตรา ปทุมคณารักษ์
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาเรื่อง การพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ คือ 1. เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกดให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ก่อนเรียนและหลังเรียนบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และ 3. เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ในอำเภอทับปุด จำนวน 2 โรงเรียน 3 ห้องเรียน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพังงา ปีการศึกษา 2560 จำนวน 63 คน ทำการสุ่มโรงเรียน โดยใช้วิธี การสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) ได้กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนโรงเรียนวัดนิโครธคุณากร จำนวน 17 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด และ 3. แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าความถี่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาพบว่า
1. บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนเรื่องการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ที่ได้พัฒนาประสิทธิภาพ พบว่า เท่ากับ 81.20/83.52 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ 80/80 จึงแสดงว่า บทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกดที่สร้างและพัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพอยู่ในเกณฑ์ดีมาก
2. คะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนการเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด ของนักเรียนก่อนเรียนมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 9.23 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.03 คิดเป็นร้อยละ 30.78 ส่วนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 25.05 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.29 คิดเป็นร้อยละ 83.52 ดังนั้น การเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการพัฒนาบทเรียนคอมพิวเตอร์ช่วยสอน การเขียนสะกดคำตามมาตราตัวสะกด มีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.74, S.D. = 0.22)