การศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้น ม.5
ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
หน่วยงาน โรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34
ปีที่ศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
…………………………………………………………………………………..
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ (3) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง สูงกว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดร้อยละ 70 และ(4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ที่มีต่อการเรียนรู้ เรื่อง เรื่อง เลขยกกำลัง โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลหลังเรียนของแบบฝึกทักษะรายชุด เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุด ชุดละ 10 ข้อ รวมทั้งหมด 50 ข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 79.31/76.07 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 81.25 ส่วนจำนวนนักเรียนที่สูงกว่าหรือเท่ากับเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด (ร้อยละ 70) จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 81.48
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมอยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 โดยรายการที่อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดตามลำดับ คือ ประเด็นที่ 10 นักเรียนมีความสุขกับการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะนี้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78 ประเด็นที่ 1 รูปเล่มของแบบฝึกทักษะมีความสวยงาม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 ประเด็นที่ 3 กิจกรรมในแบบฝึกทักษะมีความน่าสนใจ และประเด็นที่ 7 นักเรียนทำกิจกรรมในแบบฝึกทักษะได้ด้วยตนเอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 ประเด็นที่ 2 ตัวอักษรมีความชัดเจน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 และประเด็นที่ 5 สื่อการเรียนรู้มีความหลากหลาย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ส่วนรายการอื่น ๆ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.15 – 4.48
หน่วยงาน โรงเรียนสันกำแพง อำเภอสันกำแพง จังหวัดเชียงใหม่
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 34
ปีที่ศึกษา ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560
…………………………………………………………………………………..
บทคัดย่อ
การศึกษาในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ตามเกณฑ์ 75/75 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ก่อนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ (3) เพื่อพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง สูงกว่าเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนดร้อยละ 70 และ(4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันกำแพง ที่มีต่อการเรียนรู้ เรื่อง เรื่อง เลขยกกำลัง โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 18 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุด แบบทดสอบวัดผลหลังเรียนของแบบฝึกทักษะรายชุด เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 5 ชุด ชุดละ 10 ข้อ รวมทั้งหมด 50 ข้อ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 40 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ยร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบค่าที (t-test) ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 79.31/76.07 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 75/75
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จากคะแนนทดสอบก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ปีการศึกษา 2560 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. การพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ปีการศึกษา 2560 โดยภาพรวมคิดเป็นร้อยละ 81.25 ส่วนจำนวนนักเรียนที่สูงกว่าหรือเท่ากับเกณฑ์ที่สถานศึกษากำหนด (ร้อยละ 70) จำนวน 22 คน คิดเป็นร้อยละ 81.48
4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/8 โรงเรียนสันกำแพง ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกกำลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ภาพรวมอยู่ในระดับ พึงพอใจมากที่สุด มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.54 โดยรายการที่อยู่ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดตามลำดับ คือ ประเด็นที่ 10 นักเรียนมีความสุขกับการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะนี้ มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.78 ประเด็นที่ 1 รูปเล่มของแบบฝึกทักษะมีความสวยงาม มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 ประเด็นที่ 3 กิจกรรมในแบบฝึกทักษะมีความน่าสนใจ และประเด็นที่ 7 นักเรียนทำกิจกรรมในแบบฝึกทักษะได้ด้วยตนเอง มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.70 ประเด็นที่ 2 ตัวอักษรมีความชัดเจน มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.67 และประเด็นที่ 5 สื่อการเรียนรู้มีความหลากหลาย มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.56 ส่วนรายการอื่น ๆ อยู่ในระดับความพึงพอใจมาก มีค่าเฉลี่ยระหว่าง 4.15 – 4.48