KRUWANDEE

ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010
ผู้วิจัย     นายทนงศักดิ์ จันทร์แจ่ม
โรงเรียน โรงเรียนบ้านยางเตี้ย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1
ปีที่พิมพ์ 2559

บทคัดย่อ

การวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาผลของกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 โดยมีความมุ่งหมายคือ (1)เพื่อพัฒนาหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยีสาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ E1/E2 (80/80)
(2)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ที่พัฒนาขึ้น (3)เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ โดยใช้ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 (4)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 โดยใช้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) ตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนบ้านยางเตี้ย ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 1 ห้อง นักเรียนทั้งสิ้น 22 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการดำเนินการ ได้แก่ (1)หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 จำนวน 18 ชุด (2)แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 จำนวน 18 แผน (3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยาก 0.33-0.57 ค่าอำนาจจำแนก 0.27-0.64 และมีค่าความเชื่อมั่น 0.78 และ (4)แบบประเมินความพึงพอใจต่อหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) มีลักษณะเป็นมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ดัชนีประสิทธิผล และทดสอบสมมุติฐานโดยใช้ t–test (Dependent Samples) ผลการวิจัย พบว่า
    1. หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 ประสิทธิภาพ 83.19/82.58 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
    2. ดัชนีประสิทธิผลของการจัดการเรียนรู้ ด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 มีค่าเท่ากับ 0.7319 แสดงว่านักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 73.19
    3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี สาระที่ 3 เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 พบว่านักเรียน มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
    4. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยหนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 มีค่าโดยเฉลี่ย 4.84 แสดงว่านักเรียนมีความพึงพอใจในระดับมากที่สุด
    สรุปได้ว่า หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ (E-Book) เรื่อง การใช้โปรแกรม Microsoft Word 2010 สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ส่งผลให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้เป็นอย่างดี ซึ่งครู นักการศึกษา หรือผู้เกี่ยวข้องสามารถนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้