เผยแพร่งานวิชาการ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ
เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้รายงาน นางปริญญา จูช่วย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สมมติฐานของการศึกษา แบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ ค่า t-test
ผลการศึกษาสรุปได้ว่า แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.12/83.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 45.17 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 83.67 ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ พบว่า ภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยรวมตามเกณฑ์ เท่ากับ 4.47
เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ชื่อผู้รายงาน นางปริญญา จูช่วย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย
สถานศึกษา โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย อำเภอรัษฎา จังหวัดตรัง
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 2
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
รายงานการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย โดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่สร้างขึ้นตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และเพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจ ของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สมมติฐานของการศึกษา แบบฝึกทักษะมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ผลสัมฤทธิ์ทาง การเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมาก กลุ่มตัวอย่างประชากรที่ใช้ในการศึกษาได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนบ้านหนองบัวน้อย จำนวน 15 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกทักษะ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และ ค่า t-test
ผลการศึกษาสรุปได้ว่า แบบฝึกทักษะกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง สำนวน สุภาษิต และคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.12/83.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนกับหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 45.17 และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน ค่าเฉลี่ยร้อยละ 83.67 ซึ่งผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะ พบว่า ภาพรวมความพึงพอใจของนักเรียนอยู่ในระดับมาก โดยมีค่าเฉลี่ยรวมตามเกณฑ์ เท่ากับ 4.47