การพัฒนาการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นายพุฒิสรรค์ ศรีรัตนประชาxxxล
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียน โรงเรียนปอพานพิทยาคม รัชมังคลาภิเษก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 26
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การจัดกิจกรรมการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ให้มีประสิทธิภาพ ต้องอาศัยเทคนิคและวิธีการจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนอย่างหลากหลาย เพื่อให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ตลอดจนมีเจตคติที่ดีต่อวิชาคณิตศาสตร์ การเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 สามารถส่งเสริมให้ผู้เรียนเกิดความสนใจใฝ่เรียนรู้ เนื่องจาก
ผู้เรียนได้ปฏิบัติกิจกรรมทางคณิตศาสตร์ที่ทำให้ผู้เรียนเพลิดเพลินในการเรียนรู้ การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 2) เพื่อหาค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์
เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 ภาคเรียนที่ 2
ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนปอพานพิทยาคม รัชมังคลาภิเษก อำเภอนาเชือก จังหวัดมหาสารคาม จำนวน 20 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา
มี 4 ชนิด ได้แก่ แผนการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 12 แผน แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยาก (P) ตั้งแต่ 0.43 ถึง 0.81 มีค่าอำนาจจำแนก (B) ตั้งแต่ 0.28 ถึง 0.76 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (r ) เท่ากับ 0.81 แบบวัดความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียนเป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 15 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อ (t) ตั้งแต่ 3.05 ถึง 7.68 ค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ (α)
เท่ากับ 0.85 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ t-test (Dependent Sample)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ 77.32/79.14
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 0.7536 มีความเป็นไปได้ที่จะทำให้
ผลการเรียนรู้ของนักเรียนเกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่สูงขึ้นร้อยละ 75.36
3. ผลสัมฤทธิ์ทางเรียนด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 หลังการเรียน
ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.62 , S = 0.56)
โดยสรุป การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ที่กำหนด เหมาะสำหรับนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียนการสอนกับนักเรียน และเป็นแนวทาง
การพัฒนาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น สร้างแรงจูงใจในการเรียนให้กับนักเรียน ส่งผลต่อการพัฒนาทักษะทางคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นพื้นฐานในการเรียนระดับชั้นอื่นต่อไป