รายงานการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านเพื่อความเข้าใจชั้นมัธยมศึกษาปีที2
ชื่อเรื่อง รายงานการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นางสาวอินทิพร จิรฐานิด
ครู โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จำนวน 47 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากผู้รายงานเป็นครูผู้สอนห้องม. 2/1 เท่านั้น เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม ใช้เวลาเรียนเล่มละ 2 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน อ22101 เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.2 - 0.8
มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.4 – 1.0 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.9783 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าที (t –test Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ โดยเฉลี่ย E1/E2 = 83.60/84.26 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ นั่นคือ แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียนโดยรวมร้อยละ 83.60
และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน โดยรวมร้อยละ 84.26 เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในแต่ละขั้นตอนของการทดลอง พบว่า
การทดลองแบบเดี่ยว มีค่าเท่ากับ 72.92/73.33 การทดลองแบบกลุ่มเล็ก มีค่าเท่ากับ 78.25/79.44
การทดลองแบบกลุ่มใหญ่ มีค่าเท่ากับ 81.04/81.25
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6942 แสดงว่านักเรียนได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น 0.6942 หรือคิดเป็นร้อยละ 69.42
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.46 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.13 ซึ่งอยู่ ในระดับมาก
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้รายงาน นางสาวอินทิพร จิรฐานิด
ครู โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 21
ปีที่ทำการศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพ ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียน ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ระหว่างผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนชุมพลโพนพิสัย อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย จำนวน 47 คน ซึ่งได้มาด้วยการสุ่มอย่างง่ายด้วยวิธีการแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากผู้รายงานเป็นครูผู้สอนห้องม. 2/1 เท่านั้น เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 เล่ม ใช้เวลาเรียนเล่มละ 2 ชั่วโมง แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 รายวิชาภาษาอังกฤษพื้นฐาน อ22101 เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากตั้งแต่ 0.2 - 0.8
มีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.4 – 1.0 และมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.9783 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยม ศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าที (t –test Dependent Samples)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 พบว่าแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ โดยเฉลี่ย E1/E2 = 83.60/84.26 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ นั่นคือ แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ระหว่างเรียนโดยรวมร้อยละ 83.60
และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน โดยรวมร้อยละ 84.26 เมื่อพิจารณาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ
การอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ในแต่ละขั้นตอนของการทดลอง พบว่า
การทดลองแบบเดี่ยว มีค่าเท่ากับ 72.92/73.33 การทดลองแบบกลุ่มเล็ก มีค่าเท่ากับ 78.25/79.44
การทดลองแบบกลุ่มใหญ่ มีค่าเท่ากับ 81.04/81.25
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6942 แสดงว่านักเรียนได้รับการพัฒนาเพิ่มขึ้น 0.6942 หรือคิดเป็นร้อยละ 69.42
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.46 และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.13 ซึ่งอยู่ ในระดับมาก