แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
แบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
โรงเรียนมัธยมป่ากลาง
ผู้รายงาน นางราวัลย์ ฑีฆาวงศ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
หน่วยงาน โรงเรียนมัธยมป่ากลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง และ 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของ เมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง กลุ่มตัวอย่าง คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง อำเภอปัว จังหวัดน่าน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 29 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย 1) แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ เพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Places จำนวน 6 เล่ม 2) คู่มือการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง หน่วยการเรียนรู้ ที่ 3 เรื่อง Places จำนวน 6 เล่ม 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง Places เป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ (Multiple Choices) 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า จำนวน 18 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และสถิติทดสอบที
ผลการศึกษา พบว่า
1. แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบ บูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลางมีประสิทธิภาพเท่ากับ 86.59/84.43 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดไว้
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่า ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยม ป่ากลาง หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) สำหรับนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนมัธยมป่ากลาง โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.74 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.24