ผลการใช้แบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์
ผู้รายงาน โชติกาพัฒน ไพศาลวงศ์
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์คือ1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/752) เพื่อศึกษาผลการใช้แบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3โดย2.1 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียนระหว่างก่อนและหลังการเรียนด้วยแบบฝึก2.2 ศึกษาความคงทนในการเรียนของนักเรียน3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557โรงเรียนเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทร์กำแพงเพชร ในพระราชูปถัมภ์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี อำเภอเมืองกำแพงเพชร จังหวัดกำแพงเพชร สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต41จำนวน 33 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling)แบบแผนการวิจัย คือ One Group Pretest – Posttest Designเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 4 แบบฝึก แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ในการเรียนเป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนมีลักษณะเป็นแบบมาตราส่วนประเมินค่า (Rating Scale) 5 ระดับหาประสิทธิภาพแบบฝึกโดยใช้สูตร E1/E2สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน(S.D.) และการทดสอบค่าที (t-test One Sample)
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. แบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.93/ 82.20ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ในการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3มีความคงทนในการเรียน โดยมีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน เท่ากับ 32.88และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียน2 สัปดาห์ เท่ากับ 31.42
4. นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกตามแนวคิดการจัดกรอบมโนทัศน์ เพื่อส่งเสริมผลสัมฤทธิ์และความคงทนในการเรียนเรื่อง Indirect Speech สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดคือมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 4.89