รายงานการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์
ผู้รายงาน นายสิทธา สามพิมพ์
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1)สร้างคู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบความสามารถด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ของเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 ก่อนและหลังการจัดกิจกรรมโดยใช้คู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2
กลุ่มประชากรที่ใช้ในการพัฒนาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านท่าข้าม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 8 คน ผู้รายงานเป็นผู้ดำเนินการทดลองด้วยตนเอง ระยะเวลาในการศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 ในเวลา 10 สัปดาห์ รวม 39 วัน วันละ 20 นาที
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ คู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 และคู่มือประเมินทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 จำนวน 4 ฉบับ ได้แก่ทักษะ การสังเกต ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการแสดงปริมาณและทักษะการสื่อความหมาย สำหรับ การวิเคราะห์ข้อมูลใช้การหาค่าสถิติโดยใช้โปรแกรม คอมพิวเตอร์ Microsoft Excel การเปรียบเทียบคะแนนเฉลี่ยทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ก่อนและหลังจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์ของกลุ่มประชากรโดยการหาค่าร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า
1. คู่มือการจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 91.67/82.55 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 ที่ได้รับการพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์โดยใช้คู่มือ การจัดกิจกรรมเสริมประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาทักษะกระบวนการทางวิยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย ชั้นอนุบาลปีที่ 2 มีความสามารถด้านทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ ได้แก่ทักษะการสังเกต ทักษะการจำแนกประเภท ทักษะการแสดงปริมาณและทักษะการสื่อความหมาย หลังการพัฒนาสูงกว่าก่อนการพัฒนาร้อยละ 55.41ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้