รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ชื่อผู้ศึกษา นายอภิชาติ ชาบุญมี
ปีที่ทำการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษา อังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษา อังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ โรงเรียนบ้านงิ้วมีชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 จำนวน 40 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ การหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมการเขียนภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependent) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.10/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ( E.I.) ของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7407 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.07
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.70, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.48)
ชื่อผู้ศึกษา นายอภิชาติ ชาบุญมี
ปีที่ทำการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษา อังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษา อังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ โรงเรียนบ้านงิ้วมีชัย สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 3 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 จำนวน 40 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ การหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมการเขียนภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependent) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.10/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ( E.I.) ของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7407 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 74.07
3. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.70, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.48)