รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้ศึกษา นางนาฏยา สังเกตุมาลี
ปีที่ทำการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาคำศัพท์อังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 จำนวน 38 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ การหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมการเขียนภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependent) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.47/83.42 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ( E.I.) ของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7244 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.44
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.71, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.41)
ชื่อผู้ศึกษา นางนาฏยา สังเกตุมาลี
ปีที่ทำการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาคำศัพท์อังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำศัพท์ภาษาอังกฤษ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ กลุ่มตัวอย่าง ที่ใช้ในการศึกษาคือนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนบ้านอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปี การศึกษา 2559 จำนวน 38 คน เครื่องมือ ที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 10 ชุด แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ จำนวน 10 ข้อ การหาค่าประสิทธิภาพของแบบฝึกเสริมการเขียนภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 คำนวณจากสูตร E1/E2 การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนและหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ t-test (Dependent) การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่มีต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการตรวจสอบคุณภาพของแบบทดสอบวัดผมสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ค่าความยากง่าย (p) ค่าอำนาจจำแนก (r) และค่าความเชื่อมั่น (rtt)
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.47/83.42 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผล ( E.I.) ของแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีค่าเท่ากับ 0.7244 ซึ่งหมายความว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 72.44
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญ ทางสถิติที่ระดับ .05
4. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนโดยใช้แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนภาษาอังกฤษ มีความพึงพอใจต่อการเรียนวิชาภาษาอังกฤษโดยเฉลี่ยอยู่ในระดับพึงพอใจมากที่สุด ( ค่าเฉลี่ย = 4.71, ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน = 0.41)