รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เ
ชื่อเรื่อง รายงานการพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม
เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นางนิดา แก้วบุตร
ที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด (กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดกิจกรรมชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) จำนวน 38 คน ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.79/83.68 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ0.68 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.68 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 25.76 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 24.15 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.54
เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษา นางนิดา แก้วบุตร
ที่ทำงาน โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด (กวีธรรมสาร) อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์
ปีที่ศึกษา 2557
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างชุดกิจกรรมชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 และมีค่าดัชนีประสิทธิผลตั้งแต่ 0.5 ขึ้นไป เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนเรียนและหลังเรียน และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ห้อง 1 โรงเรียนเทศบาลวัดท้ายตลาด(กวีธรรมสาร) จำนวน 38 คน ที่กำลังเรียนภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2557
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 5 ชุด แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการคูณ สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการคูณ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบปรนัย เลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เป็นมาตราส่วนประมาณค่า (Rating scale) 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
สรุปผลการศึกษา
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.79/83.68 และค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ0.68 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนจากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน พบว่า มีค่าเฉลี่ยของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเท่ากับ 16.68 หลังเรียนมีค่าเฉลี่ยของคะแนนเท่ากับ 25.76 และผลการเปรียบเทียบความแตกต่างกันระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียนโดยการทดสอบค่าที (t-test) เท่ากับ 24.15 แสดงว่าคะแนนหลังเรียนสูงขึ้นกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม เพื่อพัฒนาทักษะการคูณ พบว่านักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้แบบ 4 MAT ร่วมกับเทคนิคเกม ในระดับความพึงพอใจมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.58 และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน เท่ากับ 0.54