รายงานการพัฒนาแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน
กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้รายงาน นางสาวบงกช บุญมา
ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล 2 วัดพระทรง (สุทธิวิเทศอุปถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีจุดมุ่งหมายเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง
ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดพระทรง (สุทธิวิเทศอุปถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 75/75 และเพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ รวมทั้งเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดพระทรง (สุทธิวิเทศอุปถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการ ศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดพระทรง (สุทธิวิเทศอุปถัมภ์) อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรีภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน เครื่องมือที่ใช้ ในการศึกษา คือ แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ จำนวน 8 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง ทศนิยมและเศษส่วน จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ 1 ฉบับ จำนวน 10 ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่า t-test
ผลการศึกษา พบว่า ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะจำนวน 8 เล่มมีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 โดยรวมเท่ากับ 82.42/81.89 เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐานที่กำหนดไว้ คือ 75/75 และผลการเปรียบ เทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล 2 วัดพระทรง (สุทธิวิเทศอุปถัมภ์) ก่อนและหลังจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง ทศนิยม และเศษส่วนมีค่า t-test เท่ากับ 36.50 ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .01 แสดงว่าผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมีความแตกต่างกันโดยหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียน คือ ค่าเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 24.57 ก่อนเรียนเท่ากับ 17.00 มีค่าความแตกต่างเฉลี่ยเท่ากับ 7.57 แสดงว่า ผลการเปรียบเทียบ ครั้งนี้เป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ โดยภาพรวมอยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.19 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.71 โดยมีความพึงพอใจที่สามารถคิดคำนวณได้มากขึ้นมากกว่าด้านอื่น