การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ
ชื่อรายงาน การพัฒนาทักษะการอ่านจับใจความ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ชื่อผู้รายงาน นางสาวปราณปวีณ์ คุ้มบ้าน
ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล ๑ (วิทยานารี) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทศบาล ๑ (วิทยานารี) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน ๑ ห้องเรียน รวมประชากร จำนวน ๓๐ คน ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่
๑) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๑๘ แผน
๒) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๗ ชุด
๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๒๐ ข้อ
๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๔.๑๒/๘๒.๐๐ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนและหลังจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีค่า t-test เท่ากับ ๒๖.๘๕ ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .๐๑ แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมีความแตกต่างกัน โดยหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๗๑ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๕๖
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔
ชื่อผู้รายงาน นางสาวปราณปวีณ์ คุ้มบ้าน
ครู วิทยฐานะชำนาญการพิเศษ
โรงเรียนเทศบาล ๑ (วิทยานารี) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ
ปีการศึกษา ๒๕๖๐
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ให้ได้ตามเกณฑ์มาตรฐาน ๘๐/๘๐ เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านจับใจความของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนและหลังการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ โรงเรียนเทศบาล ๑ (วิทยานารี) อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ จำนวน ๑ ห้องเรียน รวมประชากร จำนวน ๓๐ คน ในภาคเรียนที่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๐
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาได้แก่
๑) แผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๑๘ แผน
๒) แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๗ ชุด
๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๒๐ ข้อ
๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความ จำนวน ๑๐ ข้อ ดำเนินการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่า t-test
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๔.๑๒/๘๒.๐๐ สูงกว่าเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ที่กำหนดไว้ ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ ก่อนและหลังจากการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความมีค่า t-test เท่ากับ ๒๖.๘๕ ซึ่งมีนัยสำคัญทางสถิติระดับ .๐๑ แสดงว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนมีความแตกต่างกัน โดยหลังเรียนมีค่าเฉลี่ยสูงกว่าก่อนเรียนและนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านจับใจความโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุดมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๗๑ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ ๐.๕๖