การพัฒนาแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางสาวมยุรี ปากดี
ปีที่ศึกษาค้นคว้า พ.ศ. 2560
บทคัดย่อ
ในการศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการสร้างและพัฒนาแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยในครั้งนี้มีสาเหตุมาจากการประสบปัญหาในเรื่องนักเรียนส่วนใหญ่ใช้สำนวนและคำพังเพย
ไม่ถูกต้องเพราะเนื้อหาที่เรียนมีความหลากหลายจึงยากที่จะจดจำ ตลอดจนนักเรียนยังขาดทักษะ
ทางภาษา ขาดการฝึกฝน ไม่เห็นความสำคัญของการใช้ภาษาที่ถูกต้อง ทำให้การติดต่อสื่อสาร
ไม่มีประสิทธิภาพ ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ผู้ศึกษาค้นคว้ามีความมุ่งหมาย 3 ประการ
คือ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียน
สำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษา
ดัชนีประสิทธิผลของแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่าน
และการเขียนสำนวนและคำพังเพย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ นักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านนาสีใส สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาร้อยเอ็ด
เขต 3 อำเภอโพนทอง จังหวัดร้อยเอ็ด ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 18 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย
และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์
ข้อมูลในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ สถิติพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วย ค่าเฉลี่ย ( X ) ค่าร้อยละ
และค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.)
ผลการศึกษาค้นคว้า พบว่า
1. แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียน
สำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 92.56/88.89 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดขึ้น
2. แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียน
สำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.81 ซึ่งหมายความว่านักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้นร้อยละ 81
3. นักเรียนมีความพึงพอใจในการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้
ภาษาไทย เรื่อง การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
อยู่ในระดับ มากที่สุด
กล่าวโดยสรุป แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่ผู้ศึกษาค้นคว้าสร้างและพัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ
เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80 ที่กำหนดขึ้น นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น มีความพึงพอใจในการเรียนด้วย
แบบฝึกทักษะอยู่ในระดับ มากที่สุด ดังนั้น แบบฝึกทักษะ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่อง
การอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จึงมีประสิทธิภาพที่สามารถใช้เป็นสื่อหรือนวัตกรรมที่เอื้อต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนที่ส่งผลต่อการเกิดความรู้ความเข้าใจที่คงทน นำไปสู่การจดจำเนื้อหาได้แม่นยำ และจำได้นาน ทั้งนี้เพราะแบบฝึกทักษะที่สร้าง
และพัฒนาขึ้น มุ่งเน้นให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมในบทเรียน ได้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเอง
อย่างหลากหลาย ซึ่งเป็นการปฏิบัติซ้ำ ทำบ่อย ๆ ในเรื่องเดียวกัน ตลอดจนนักเรียนได้เรียนรู้อย่างมีความสุข ประการสำคัญคือ นักเรียนได้เพิ่มพูนทักษะด้านการอ่านและการเขียนสำนวนและคำพังเพย สามารถนำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน และใช้เป็นความรู้พื้นฐานในการศึกษาเรียนรู้ในระดับชั้นที่สูงขึ้นไปได้อีกด้วย