การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรี
การพัฒนาแบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้ กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
(นางสาวสกุณา รันพิศาล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ)
วัตถุประสงค์การวิจัย
1) ศึกษาประสิทธิภาพการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80
2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วน และร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะ
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์
อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 33 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย
(Simple Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย
1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชุด
2) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 แผน
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (Dependent Samples t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 82.35/83.05
เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 0.79 คิดเป็นร้อยละ 79
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังใช้แบบฝึกทักษะสูงกว่า
ก่อนใช้แบบฝึกทักษะ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือ
เทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
(นางสาวสกุณา รันพิศาล ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์ อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ)
วัตถุประสงค์การวิจัย
1) ศึกษาประสิทธิภาพการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80
2) ศึกษาดัชนีประสิทธิผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วน และร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ก่อนและหลังใช้แบบฝึกทักษะ
4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
เป็นนักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนขุนหาญวิทยาสรรค์
อำเภอขุนหาญ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ จำนวน 33 คน ได้มาโดยวิธีการสุ่มอย่างง่าย
(Simple Random Sampling)
เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ประกอบด้วย
1) แบบฝึกทักษะคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 ชุด
2) แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา คณิตศาสตร์พื้นฐาน รหัสวิชา ค22101 เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 10 แผน
3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 30 ข้อ
4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้
กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 15 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ
ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (Dependent Samples t-test)
ผลการวิจัย พบว่า
1. ประสิทธิภาพการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 82.35/83.05
เป็นไปตามเกณฑ์ 80/80
2. ดัชนีประสิทธิผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 เท่ากับ 0.79 คิดเป็นร้อยละ 79
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือเทคนิค TAI
เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 หลังใช้แบบฝึกทักษะสูงกว่า
ก่อนใช้แบบฝึกทักษะ อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ ประกอบการจัดการเรียนรู้กลุ่มร่วมมือ
เทคนิค TAI เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ภาพรวมอยู่ในระดับมาก