ชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาและหาประสิทธิภาพของชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่องความน่าจะเป็น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ก่อนและหลังเรียนด้วยชุดการเรียนรู้ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้
ประชากรที่ใช้ ได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) สังกัดเทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี จำนวน 2 ห้องเรียน ภาคเรียนที่ 2ปีการศึกษา 2557 ประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/1 จำนวน 44 คน และนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3/2 จำนวน 42 คน รวมทั้งสิ้น 86 คน
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาล ๔ (วัดมหาธาตุวรวิหาร) เทศบาลเมืองราชบุรี จังหวัดราชบุรี ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2557 จำนวน 1 ห้องเรียน จำนวนนักเรียน 42 คน ที่ได้มาจากการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) โดยใช้ห้องเรียนเป็นหน่วยการสุ่ม ซึ่งนักเรียนแต่ละห้องเรียนมีผลการเรียนไม่แตกต่างกัน เนื่องมาจากทางโรงเรียนจัดห้องเรียนโดยคละความสามารถของนักเรียน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย 1) ชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ จำนวน 5 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อชุดการเรียนรู้
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่อง ความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ มีค่าประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.76/81.31 แสดงว่าชุดการเรียนรู้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ 75/75 ที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเรื่อง ความน่าจะเป็น จากการเปรียบเทียบคะแนนก่อนเรียน และหลังเรียนของนักเรียนที่ใช้ ชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ พบว่าแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 โดยมีผลคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยชุดการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือด้วยเทคนิค TAI เรื่องความน่าจะเป็น ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยรวมอยู่ในระดับพึงพอใจมาก