รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา : นางวาสนา นันทเสน โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน
ปีที่ศึกษา : ปี 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อน และหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษา
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการทดลองใช้แบบแผนการทดลองแบบ One-group Pretest – Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษา พบว่า แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด มีประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 86.12/83.25 นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59)
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
ผู้ศึกษา : นางวาสนา นันทเสน โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน
ปีที่ศึกษา : ปี 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้าง และหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบคะแนนก่อน และหลังการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อศึกษา
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสมาคมพยาบาลไทย อำเภอสองแคว จังหวัดน่าน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 20 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) ดำเนินการทดลองใช้แบบแผนการทดลองแบบ One-group Pretest – Posttest Design เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียน 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test)
ผลการศึกษา พบว่า แบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 จำนวน 8 ชุด มีประสิทธิภาพ E1 /E2 เท่ากับ 86.12/83.25 นักเรียนที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 ระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง มาตราน่ารู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.59)