การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่องงานและพลังงาน วิชา ฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายศิริศักดิ์ ศุภรักษ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สังกัด โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2560
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 มัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Perpossive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .38 ถึง .80 มีค่าอำนาจจำแนก .20 ถึง .60 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ .93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และการทดสอบค่า t
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.04/82.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าร้อยละ 69.85
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่าเฉลี่ยรวม อยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.51 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.63
ชื่อเรื่อง การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่องงานและพลังงาน วิชา ฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5
ผู้วิจัย นายศิริศักดิ์ ศุภรักษ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
สังกัด โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2560
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการ
สืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้วิทยาศาสตร์โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 4) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 มัธยมศึกษาปีที่ 5
กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 34 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเฉพาะเจาะจง (Perpossive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .38 ถึง .80 มีค่าอำนาจจำแนก .20 ถึง .60 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ .93 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และการทดสอบค่า t
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 83.04/82.65 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. ดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีค่าร้อยละ 69.85
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ที่ระดับ .01
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 7E เรื่อง งานและพลังงาน วิชาฟิสิกส์ 2 ว32202 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 พบว่าเฉลี่ยรวม อยู่ในระดับมากที่สุดโดยมีค่าเฉลี่ย ( ) เท่ากับ 4.51 และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) เท่ากับ 0.63