การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน
ชื่อเรื่อง : การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสีชมพูศึกษา
ชื่อผู้วิจัย : นางพัชรินทร์ สาคีรี
ปีที่ศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ได้ตามเกณฑ์ 0.5
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน หลังจากการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสีชมพูศึกษา จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจ 4 ด้าน จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.05/81.22 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6893 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.93
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
( = 4.43, S.D. = 0.78) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกด้านเช่นกัน
โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) ด้านรูปแบบของชุดกิจกรรม 2) ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการวัดผลประเมินผล และ 4) ด้านเนื้อหา เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) รู้สึกสนุกกับการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม 2) น่าสนใจ สวยงาม 3) กิจกรรมเรียงลำดับจากง่ายไปยาก 4) ภาพประกอบชัดเจน เข้าใจง่าย 5) ชุดกิจกรรมสอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์ 6) เกี่ยวข้องและเห็นในชีวิตประจำวัน และ 7) มีความอยากเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 13 ข้อ
โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสีชมพูศึกษา
ชื่อผู้วิจัย : นางพัชรินทร์ สาคีรี
ปีที่ศึกษา : 2560
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) หาค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ได้ตามเกณฑ์ 0.5
3) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียน หลังจากการเรียนการสอนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) และ 4) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/8 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสีชมพูศึกษา จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มแบบแบ่งกลุ่ม เครื่องมือที่ใช้ ได้แก่ 1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) จำนวน 7 ชุด 2) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ จำนวน 15 แผนการจัดการเรียนรู้ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 40 ข้อ และ 4) แบบวัดความพึงพอใจ 4 ด้าน จำนวน 20 ข้อ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าที (t-test dependent)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีประสิทธิภาพ เท่ากับ 82.05/81.22 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนดไว้คือ 80/80
2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีค่าเท่ากับ 0.6893 แสดงว่าผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 68.93
3. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
4. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วน xxxส่วนและร้อยละ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบสืบเสาะหาความรู้ (5E) โดยรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก
( = 4.43, S.D. = 0.78) เมื่อพิจารณาเป็นรายด้านพบว่านักเรียนมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากทุกด้านเช่นกัน
โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) ด้านรูปแบบของชุดกิจกรรม 2) ด้านการจัดการเรียนการสอน ด้านการวัดผลประเมินผล และ 4) ด้านเนื้อหา เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อพบว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับมากที่สุด 7 ข้อ โดยเรียงลำดับจากมากไปหาน้อยดังนี้ 1) รู้สึกสนุกกับการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม 2) น่าสนใจ สวยงาม 3) กิจกรรมเรียงลำดับจากง่ายไปยาก 4) ภาพประกอบชัดเจน เข้าใจง่าย 5) ชุดกิจกรรมสอดคล้องกับเนื้อหาและจุดประสงค์ 6) เกี่ยวข้องและเห็นในชีวิตประจำวัน และ 7) มีความอยากเรียนคณิตศาสตร์มากขึ้น และมีความพึงพอใจอยู่ในระดับมาก 13 ข้อ