การศึกษาผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเป้าวิทยา จังหวัดชัยภูมิ
ผู้ศึกษา นางสาววัฒนา สระสิริ
ปีที่พิมพ์ 2560
บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อประกอบการจัดการเรียนการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ตามความสามารถ โดยเน้นวิธีการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ด้วยเนื้อหาสาระและรูปภาพประกอบ ที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งผู้เรียนสามารถประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อดูความก้าวหน้า จึงเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบทเรียนสำเร็จรูปวิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่อง พันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านเป้าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีสุ่มอย่างง่าย (Sample random Sampling) โดยการจับฉลากห้องเรียนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ 1. บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.30-0.70 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27-0.97 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.97 และ 3. แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Raring Scale) จำนวน 12 ข้อมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 สถิติ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าดัชนีประสิทธิผล ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏผลดังนี้ 1.ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน เรื่องพันธะเคมี ว31102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 81.89/86.60 2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7841 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7841 หรือ คิดเป็นร้อยละ 78.41 3.นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .054.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว 31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมและเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากโดยสรุป การศึกษาผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าบทเรียนสำเร็จรูป มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ มีส่วนช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการนำไปใช้จัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร
ชื่อเรื่อง การศึกษาผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี
ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านเป้าวิทยา จังหวัดชัยภูมิ
ผู้ศึกษา นางสาววัฒนา สระสิริ
ปีที่พิมพ์ 2560
บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมีชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นสื่อประกอบการจัดการเรียนการสอน ที่ส่งเสริมให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ ตามความสามารถ โดยเน้นวิธีการศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง ด้วยเนื้อหาสาระและรูปภาพประกอบ ที่เข้าใจง่าย พร้อมทั้งผู้เรียนสามารถประเมินผลการเรียนรู้ด้วยตนเองเพื่อดูความก้าวหน้า จึงเป็นการจัดการเรียนการสอนที่ตอบสนองต่อความแตกต่างระหว่างบุคคล การศึกษาค้นคว้าในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างบทเรียนสำเร็จรูปวิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 ศึกษาค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยบทเรียนสำเร็จรูป และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่อง พันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 โรงเรียนบ้านเป้าวิทยา สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ จำนวน 32 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีสุ่มอย่างง่าย (Sample random Sampling) โดยการจับฉลากห้องเรียนเครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าครั้งนี้ ได้แก่ 1. บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 8 เล่ม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.30-0.70 ค่าอำนาจจำแนกอยู่ระหว่าง 0.27-0.97 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.97 และ 3. แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Raring Scale) จำนวน 12 ข้อมีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.88 สถิติ ที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าดัชนีประสิทธิผล ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบค่าทีผลการศึกษาค้นคว้า ปรากฏผลดังนี้ 1.ประสิทธิภาพของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน เรื่องพันธะเคมี ว31102 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพ 81.89/86.60 2. ค่าดัชนีประสิทธิผลของบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีค่าเท่ากับ 0.7841 แสดงว่า นักเรียนมีความรู้เพิ่มขึ้น 0.7841 หรือ คิดเป็นร้อยละ 78.41 3.นักเรียนที่เรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .054.นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว 31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ในภาพรวมและเป็นรายด้าน อยู่ในระดับมากโดยสรุป การศึกษาผลการพัฒนาบทเรียนสำเร็จรูป วิชาเคมีพื้นฐาน ว31102 เรื่องพันธะเคมี ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 พบว่าบทเรียนสำเร็จรูป มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ มีส่วนช่วยให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนสูงขึ้น นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนโดยใช้บทเรียนสำเร็จรูปมีความเหมาะสมเป็นอย่างยิ่งในการนำไปใช้จัดการเรียนการสอน เพื่อให้ผู้เรียนบรรลุผลการเรียนรู้ที่คาดหวังและตามมาตรฐานการเรียนรู้ของหลักสูตร