การพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา
เขต ๒
ผู้ศึกษา นางอรอุมา เพ็ชรนิล
ตำแหน่ง ครู โรงเรียนบ้านยะหา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒
บทคัดย่อ
การพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ มีวัตถุประสงค์เพื่อ ๑) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ ๘๐/๘๐ ๒) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียน โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา และ ๓) เพื่อศึกษาความพึงพอใจที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ประกอบด้วย
๑) แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๕ เล่ม ๒) แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถม ศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑๘ แผน ๓) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ก่อนเรียนและหลังเรียน จำนวน ๓๐ ข้อ และ ๔) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ จำนวน ๑๐ ข้อ ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑/๓ โรงเรียนบ้านยะหา สังกัด สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษายะลา เขต ๒ ในภาคเรียนที่ ๒ ประจำปีการศึกษา ๒๕๕๙ จำนวน ๒๘ คน ที่ผู้รายงานเป็นครูผู้สอน การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าสถิติ คือ ค่าเฉลี่ย และค่าร้อยละ
ผลการศึกษาพบว่า
๑. ผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๗.๖๑/๘๔.๔๐
๒. นักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใช้แบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียน โดยมีค่าพัฒนาเฉลี่ยเท่ากับ ๑๑.๕๐ คิดเป็นร้อยละ ๓๘.๔๕
๓. ผลการประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้ เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระ การเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ โรงเรียนบ้านยะหา โดยมีค่าเฉลี่ยเท่ากับ ๔.๙๖ คิดเป็นร้อยละ ๙๙.๒๐ อยู่ในระดับมากที่สุด
ข้อเสนอแนะ
๑. ครูผู้สอนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สามารถนำแบบฝึกทักษะภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ไปประยุกต์ใช้เพื่อฝึกทักษะการใช้ภาษาไทย เรื่องการแต่งประโยค กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยได้ เพราะจากการศึกษาได้ยืนยันถึงผลของความสำเร็จในการนำไปใช้แล้วคือการมีประสิทธิภาพเท่ากับ ๘๗.๖๑/๘๔.๔๐ ซึ่งสามารถพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ ให้สูงขึ้นได้ และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการใช้แบบฝึกทักษะโดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
๒. จากผลการประเมินความพึงพอใจที่พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจต่อรายการครูให้ความสนใจนักเรียนอย่างทั่วถึงขณะสอน ครูจัดกิจกรรมจากง่ายไปหายาก มีระดับความพึงพอใจต่ำสุด แต่ก็ยังอยู่ในระดับมากที่สุด ดังนั้น เพื่อให้การพัฒนานักเรียนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ครูผู้สอนต้องให้ความสำคัญกับนักเรียนอย่างทั่วถึง และจัดกิจกรรมตามลำดับขั้นตอนจากง่ายไปหายากอย่างระมัดระวัง เพื่อให้นักเรียนในกลุ่มอ่อนได้ตามทันอย่างทั่วถึงกัน