รายงานผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ช
ชื่อผู้ศึกษา นางสาวณัฐธนา เหลืองเจริญรัศมี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการ
โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 4 ห้องเรียน รวม 79 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม จังหวัดน่าน จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale)
ผลการศึกษาพบว่า 1)ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.23/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 2). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด
โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 37
ปีที่ศึกษา ปีการศึกษา 2560
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1)เพื่อพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาฟิสิกส์ เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ก่อนและหลังเรียน ด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 4 ห้องเรียน รวม 79 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5/1 แผนการเรียนวิทยาศาสตร์ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนสันติสุขพิทยาคม จังหวัดน่าน จำนวน 23 คน ซึ่งได้มาจากการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่1) ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 7 ชุด 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ 3) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 แบบมาตราส่วน ประมาณค่า 5 ระดับ (Rating Scale)
ผลการศึกษาพบว่า 1)ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 82.23/84.17 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ 80/80 2). ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แสงและทัศนอุปกรณ์ ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 หลังเรียนด้วยชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น เรื่องแสงและทัศนอุปกรณ์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 5 ในภาพรวมมีความพึงพอใจอยู่ในระดับ มากที่สุด