การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น
บทคัดย่อ
หัวข้อวิจัย การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น(5Es)
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางวิลัยลักษ์ ทัพไทย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้5ขั้น(5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 23) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้5ขั้น(5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนเมืองจันทร์-วิทยาคมอำเภอเมืองจันทร์จังหวัดศรีสะเกษจำนวน 28คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5ขั้น (5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.48ถึง 0.67
ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.46 ถึง 0.62 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85และแบบสอบถาม
ความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5ขั้น(5Es) วิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ77.04/76.55
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด(x-bar= 4.54, S.D.= 0.50 )
หัวข้อวิจัย การพัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น(5Es)
วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางวิลัยลักษ์ ทัพไทย
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ โรงเรียนเมืองจันทร์วิทยาคม สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีการศึกษา 2560
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ1) พัฒนาชุดกิจกรรมการเรียนรู้ วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75
2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน ของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้5ขั้น(5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 23) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้5ขั้น(5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละสำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1ที่กำลังเรียนอยู่ในภาคเรียนที่1 ปีการศึกษา 2560โรงเรียนเมืองจันทร์-วิทยาคมอำเภอเมืองจันทร์จังหวัดศรีสะเกษจำนวน 28คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเป็นกลุ่ม (Cluster Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5ขั้น (5Es)วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน จำนวน 30 ข้อ ที่มีค่าความยาก ตั้งแต่ 0.48ถึง 0.67
ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.46 ถึง 0.62 มีค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.85และแบบสอบถาม
ความพึงพอใจ จำนวน 15 ข้อ ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.90วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและการทดสอบที (t-test)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5ขั้น(5Es) วิชาคณิตศาสตร์
เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2มีค่าประสิทธิภาพเท่ากับ77.04/76.55
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ 5 ขั้น (5Es)
วิชาคณิตศาสตร์เรื่อง อัตราส่วนและร้อยละ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด(x-bar= 4.54, S.D.= 0.50 )