รายงานการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ
บทคัดย่อ
ชื่อผลงาน : รายงานการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา : นางเบญจลักษณ์ วันดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
หน่วยงาน : โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีที่ทำการศึกษา : 2560
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างและใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป
2.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนของผู้เรียนโดยการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน
ผู้รายงานได้สร้างแบบฝึกพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิเคราะห์หาคุณภาพและประเมินคุณภาพแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพื่อศึกษาดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหา ตามเกณฑ์ของความตรงตามเนื้อหา (IOC) สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ตรวจสอบคุณภาพแบบทดสอบ โดยเน้นความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (P) และค่าอำนาจจำแนก (r) และวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.79/81.75 ตามเกณฑ์ 75/75 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I) เท่ากับ0.75 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจในระดับมากที่สุด
ชื่อผลงาน : รายงานการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ชื่อผู้ศึกษา : นางเบญจลักษณ์ วันดี ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
หน่วยงาน : โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา
ปีที่ทำการศึกษา : 2560
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์
1.เพื่อสร้างและใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ให้ได้ประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) ตั้งแต่ 0.50 ขึ้นไป
2.เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียน และหลังเรียนของผู้เรียนโดยการใช้แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
3.เพื่อศึกษาความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนสุขไพบูลย์วิริยะวิทยาสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครราชสีมา ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 30 คน
ผู้รายงานได้สร้างแบบฝึกพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยวิเคราะห์หาคุณภาพและประเมินคุณภาพแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจเพื่อศึกษาดัชนีความสอดคล้องเชิงเนื้อหา ตามเกณฑ์ของความตรงตามเนื้อหา (IOC) สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ ตรวจสอบคุณภาพแบบทดสอบ โดยเน้นความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหา และวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (P) และค่าอำนาจจำแนก (r) และวิเคราะห์หาค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบ เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ และวิเคราะห์ความพึงพอใจของผู้เรียนที่มีต่อแบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้ค่าร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการศึกษาพบว่า แบบฝึกพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจ โดยใช้วิธีการสอนอ่านแบบบูรณาการของเมอร์ดอค (MIA)ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2ที่สร้างขึ้นมีประสิทธิภาพ 83.79/81.75 ตามเกณฑ์ 75/75 และค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I) เท่ากับ0.75 หมายความว่า ผู้เรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 75 และมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และผู้เรียนมีความพึงพอใจต่อแบบฝึกพัฒนาการอ่านภาษาอังกฤษเพื่อความเข้าใจในระดับมากที่สุด