รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรม Nature of Scienceฯ
บทคัดย่อ
ชื่อผลงาน : รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5
ชื่อผู้ศึกษา : นางสุทิศษา ศิริดิษฐกุล
ปีที่ศึกษา : 2559
รายงานผลการใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนอนุบาลพุทธยาคม (วัดเขาบางทราย) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียน ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียน ที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ประชากรที่ใช้ในการศึกษา คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5/1 โรงเรียนอนุบาลพุทธยาคม (วัดเขาบางทราย) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชลบุรี เขต 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 28 คน ได้มาจากวิธีการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา ได้แก่ ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 จำนวน 6 เล่ม แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบปรนัยชนิด 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) มี 5 ระดับ จำนวน 10 ข้อ โดยในการศึกษาครั้งนี้ผู้รายงานได้ใช้ค่าสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I) และการแปลผลตามเกณฑ์ที่กำหนด
ผลการศึกษา พบว่า
1. การหาประสิทธิภาพ (E1/E2 ) ของเอกสารประกอบการเรียน เรื่อง แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 สูงกว่าเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 ทุกเล่ม โดยมีประสิทธิภาพเฉลี่ยรวมเท่ากับ 82.78 / 84.78 ซึ่งเป็นไปตามสมมุติฐานของการศึกษาที่ตั้งไว้
2. การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่ามีคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 17.68 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.66 คิดเป็นร้อยละ 58.93 และหลังเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 26.36 คะแนน ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 1.47 คิดเป็นร้อยละ 87.86 ดังนั้นผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเฉลี่ยเท่ากับ 8.68 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 28.93 และมีค่าดัชนีประสิทธิผล (E.I.) เท่ากับ 0.7043 แสดงว่านักเรียนมีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนคิดเป็นร้อยละ 71.06 แสดงว่านักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่กำหนดไว้
3. การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้ชุดกิจกรรม Nature of Science ในการปฏิบัติทดลองวิทยาศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 แรงในชีวิตประจำวัน กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ (ว15101) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 พบว่า นักเรียนมีความพึงพอใจในภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด (μ=4.56 , σ=0.54)