การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์
ชื่องานศึกษา การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนภูแลนคาวิทยายน โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์
ชื่อผู้ศึกษา นายทศพล ตาปราบ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนภูแลนคาวิทยายน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนภูแลนคาวิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์และแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เรื่อง2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของบทเรียนบนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ (E1/E2) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นพบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.89/88.67 และมีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.61 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียน กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 26.60 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม 30 คะแนน เท่ากับ 24 คะแนน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.67 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 อยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
ชื่อผู้ศึกษา นายทศพล ตาปราบ
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
การศึกษาครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์ บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนภูแลนคาวิทยายน ที่มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรู้ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ โดยใช้บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 3) เพื่อศึกษาความ พึงพอใจของนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาวศึกษา คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนภูแลนคาวิทยายน สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ตำบลภูแลนคา อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 จำนวน 25 คน ซึ่งได้มาโดยวิธีการสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาค้นคว้าได้แก่ 1) บทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์และแผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 เรื่อง2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของบทเรียนบนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 การวิเคราะห์ข้อมูล โดยใช้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์ (E1/E2) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และค่าที (t-test) ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของบทเรียนคอมพิวเตร์บนสื่อสังคมออนไลน์ เรื่อง อาชญากรรมคอมพิวเตอร์ สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นพบว่า มีประสิทธิภาพเท่ากับ 87.89/88.67 และมีดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0.61 สูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้
2. การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน พบว่า นักเรียน กลุ่มตัวอย่างมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 26.60 คะแนน สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 80 ของคะแนนเต็ม 30 คะแนน เท่ากับ 24 คะแนน มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 88.67 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อบทเรียนคอมพิวเตอร์บนสื่อสังคมออนไลน์มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.27 อยู่ในระดับมาก ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้