รายงานการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E
ผู้รายงาน ศศิธร เทพรัตน์
สถาบันการศึกษา โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง
สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาและหาประสิทธิภาพรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ เรื่องพืช กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 4 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการคิดด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ เรื่องพืช กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ก่อนการเรียนและหลังการเรียน 3) ศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ เรื่องพืช กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เรื่องพืช ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากเรียนจบแล้ว 2 สัปดาห์ ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 และ 4) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ เรื่องพืช กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/1โรงเรียนเทศบาลวัดเสาธงทอง สำนักการศึกษา เทศบาลนครนครศรีธรรมราช ปีการศึกษา 2559 จำนวน 40 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ (1) รูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (2) แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 14 แผน เวลา 14 ชั่วโมง (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน เป็นแบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ และ (4) แบบสอบถามความพึงพอใจ จำนวน 10 ข้อ วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติ 1) ค่าประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ โดยใช้ค่าร้อยละ 80/80 2) เปรียบเทียบคะแนนผลสัมฤทธิ์ทักษะการคิด จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน ด้วยสถิติทดสอบ t-test แบบ dependent 3) วิเคราะห์แบบสอบถามความพึงพอใจ โดยใช้ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ผลการหาประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพโดยรวม 88.70/88.38 ซึ่งมีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่ผู้รายงานกำหนดไว้ เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทักษะการคิดด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ เรื่องพืช กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียน ( = 35.35, S.D = 1.55) สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน ( = 16.63, S.D = 3.93) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ 0.05
3. ผลการศึกษาความคงทนในการเรียนรู้ ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 หลังจากเรียนจบแล้ว 2 สัปดาห์ นักเรียนมีความก้าวหน้าทางการเรียนร้อยละ 76.88
4. ผลการศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนโดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนด้วยวิธีสืบเสาะ 5 E กับเทคนิคการใช้รูปภาพ กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า โดยรวมมีความพึงพอใจ ในระดับมาก ( = 4.19, S.D = 0.30) และเมื่อพิจารณารายด้าน พบว่ามีความพึงพอใจในระดับมากทุกด้าน โดยมีความพึงพอใจในด้านกิจกรรมการเรียนรู้ เป็นอันดับแรก รองลงมาได้แก่ ด้านรูปแบบ และด้านประโยชน์ เป็นอันดับสุดท้าย