การพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์
โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า เทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางทิพวรรณ ผาสุข
ตำแหน่ง ครู คศ.2 วิทยฐานะครูชำนาญการ
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ของโรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง อำเภอเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และ 2) เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม หลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัดประสบการณ์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 อายุระหว่าง 5 – 6 ปี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม(Cluster Sampling Random ) โดยใช้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) แผนการจัดประสบการณ์การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินการจัดประสบการณ์ใน 3 กิจกรรมคือ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ และกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยกำหนดหน่วยการเรียนรู้ที่จัด 3 หน่วยการเรียนรู้ มี 45 กิจกรรม ทุกกิจกรรมจะเน้นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ 2)แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์การวาดภาพ หรือเรียกอีกอย่างว่า แบบทดสอบ ทีซีที – ดีพี ( TCT-DP :Test for Creative Thinking-Drawing Production) ของเยลเลน และ เออร์บัน(Jellen & Urban) สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมารฐาน ผลการวิจัยสรุปว่า
1. จัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 97.17/92.95
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ทีได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความคิดสร้างสรรค์ที่จัดเฉลี่ยภาพรวม 96.05 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความคิดริเริ่มมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.34 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดคล่องแคล่ว มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.81 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดยืดหยุ่น มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 96.53 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดละเอียดลออ มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 96.53 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75
โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่ม สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3
โรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า เทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ
ผู้ศึกษาค้นคว้า นางทิพวรรณ ผาสุข
ตำแหน่ง ครู คศ.2 วิทยฐานะครูชำนาญการ
ปีที่พิมพ์ 2560
บทคัดย่อ
รายงานผลการพัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ของโรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง อำเภอเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย คือ 1) เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 75/75 และ 2) เพื่อศึกษาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยที่ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่ม หลังจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนจัดประสบการณ์ กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัย กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ในระดับชั้นอนุบาลปีที่ 3 อายุระหว่าง 5 – 6 ปี ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 ของโรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง ซึ่งได้มาจากวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม(Cluster Sampling Random ) โดยใช้นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3/1 จำนวน 26 คน เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา 1) แผนการจัดประสบการณ์การพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ของเด็กปฐมวัยโดยการจัดประสบการณ์การเรียนรู้แบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลป้อมแผลงไฟฟ้า สำนักงานเทศบาลเมืองพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ดำเนินการจัดประสบการณ์ใน 3 กิจกรรมคือ กิจกรรมเคลื่อนไหวและจังหวะ กิจกรรมสร้างสรรค์ และกิจกรรมเสริมประสบการณ์ โดยกำหนดหน่วยการเรียนรู้ที่จัด 3 หน่วยการเรียนรู้ มี 45 กิจกรรม ทุกกิจกรรมจะเน้นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยใช้กระบวนการกลุ่มเพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ 2)แบบทดสอบวัดความคิดสร้างสรรค์การวาดภาพ หรือเรียกอีกอย่างว่า แบบทดสอบ ทีซีที – ดีพี ( TCT-DP :Test for Creative Thinking-Drawing Production) ของเยลเลน และ เออร์บัน(Jellen & Urban) สำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 สถิติที่ใช้ได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมารฐาน ผลการวิจัยสรุปว่า
1. จัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 97.17/92.95
2. นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 ทีได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์โดยใช้การสอนแบบกระบวนการกลุ่มสำหรับนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 3 มีความคิดสร้างสรรค์ที่จัดเฉลี่ยภาพรวม 96.05 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 เมื่อพิจารณารายด้านพบว่า ด้านความคิดริเริ่มมีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.34 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดคล่องแคล่ว มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 95.81 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดยืดหยุ่น มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 96.53 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75 ด้านความคิดละเอียดลออ มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 96.53 สูงกว่าเกณฑ์ร้อยละ 75