การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การหาร โดยใช้รูปแบบ....
บทคัดย่อ
คณิตศาสตร์เป็นศาสตร์ที่สำคัญยิ่งต่อการฝึกทักษะความรู้พื้นฐานการดำรงชีวิตและสามารถ พัฒนากระบวนการคิด ช่วยให้ผู้เรียนรู้ คิดอย่างมีเหตุมีผล มีความสามารถในการแก้ไขปัญหา และเป็นพื้นฐานการเรียนรู้ในวิชาอื่น ๆ การจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โดยใช้ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบซิปปา มุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องที่เรียน เป็นแนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ตามศักยภาพของตนเองและเรียนรู้ อย่างมีความสุข มีทักษะพื้นฐานเพียงพอที่จะนำไปใช้ และแก้ปัญหาในสถานการณ์ต่าง ๆ ได้ ดังนั้น การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การหาร โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปา กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 2) พัฒนาผลสัมฤทธิ์การเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 75 และมีจำนวนนักเรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 80 ของนักเรียนทั้งหมด มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ ร้อยละ 75 ขึ้นไป 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปา กลุ่มเป้าหมาย นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ประจำภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านเกิ้ง อำเภอบ้านไผ่ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาขอนแก่น เขต 2 จำนวน 14 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ 1) เครื่องมือที่ใช้ในการทดลองปฏิบัติ ได้แก่ แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอนแบบซิปปา เรื่อง การหาร ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 15 แผน 15 ชั่วโมง 2) เครื่องมือที่ใช้สะท้อนผลการปฏิบัติ ได้แก่ แบบสังเกตพฤติกรรมการสอนของครูแบบสังเกตพฤติกรรมการเรียนรู้ของนักเรียน แบบบันทึกหลังสอน แบบสัมภาษณ์ผู้เรียน แบบทดสอบท้ายวงจร 3) เครื่องมือที่ใช้ในการประเมินประสิทธิภาพการจัดการเรียนรู้ ได้แก่ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียน รูปแบบการวิจัยเป็นการวิจัยเชิงปฏิบัติการ มีวงจรปฏิบัติการ 4 วงจร การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้ร้อยละ ค่าเฉลี่ย และสรุปความเรียง
ผลการวิจัยพบว่า
1) การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้คณิตศาสตร์ เรื่อง การหาร โดยใช้รูปแบบการสอนแบบ ซิปปา 7 ขั้นตอน กับการใช้หลักการวิจัยเชิงปฏิบัติการ ช่วยให้นักเรียนมีส่วนร่วม ในกิจกรรมการเรียนรู้อย่างทั่วถึงและเป็นผู้ลงมือปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ด้วยตนเอง นักเรียนทุกคนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นและร่วมอภิปราย เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับกลุ่ม นักเรียนสามารถสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง ส่งผลให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาอย่างลึกซึ้งและจดจำได้ดี ได้เคลื่อนไหวทางกาย ทำให้นักเรียนตื่นตัว มีสมาธิและมีความพร้อมในการเรียนส่งผลให้เรียนด้วยความสนใจและตั้งใจเรียน ได้มีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลและสิ่งแวดล้อมรอบตัวสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ได้จริง นอกจากนี้นักเรียนยังได้รับการพัฒนาทักษะและกระบวนการต่างๆ ที่สำคัญและจำเป็น เช่น ทักษะการคิดวิเคราะห์ ทักษะการสื่อสาร ทักษะการจัดการ ทักษะการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง ทักษะกระบวนการกลุ่ม และเกิดคุณลักษณะที่พึงประสงค์ ได้แก่ มีความกระตือรือร้นในการเรียน ใฝ่รู้ใฝ่เรียน กล้าแสดงออก ยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น มีการวางแผนการทำงาน มีความรับผิดชอบต่อตนเองและต่อกลุ่ม และมีความมุ่งมั่นในการทำงาน
2) นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเฉลี่ยร้อยละ 79.17 และมีนักเรียนจำนวน 10 คน คิดเป็นร้อยละ 83.33 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนตั้งแต่ร้อยละ 75 ขึ้นไป ซึ่งผ่านเกณฑ์ที่กำหนดไว้
3) นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เรื่อง การหาร โดยใช้รูปแบบการสอน แบบซิปปา โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด