รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยงาน โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1
ผู้ศึกษา กมลชนก สุขศรี
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำ
ในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
ครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 11 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.45 ถึง 0.73 ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้ออยู่ระหว่าง 0.36 ถึง 0.73 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 14 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจ เท่ากับ 0.82
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ
การทดสอบทีแบบไม่เป็นอิสระจากกัน ( t-test Dependent Sample )
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.50/84.44 เป็นไปตามเกณฑ์และสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
หน่วยงาน โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1
ผู้ศึกษา กมลชนก สุขศรี
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การศึกษาค้นคว้าครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ คือ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำ
ในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ให้มีประสิทธิภาพ
ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะ การเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย และ 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจ
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่มีต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษา
ครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 27 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 9 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 11 แผน แบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้ศึกษาสร้างขึ้น จำนวน 30 ข้อ มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง 0.45 ถึง 0.73 ค่าอำนาจจำแนกเป็นรายข้ออยู่ระหว่าง 0.36 ถึง 0.73 ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบทั้งฉบับเท่ากับ 0.83 และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 จำนวน 14 ข้อ มีค่าความเชื่อมั่นของแบบสอบถามความพึงพอใจ เท่ากับ 0.82
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล คือ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและ
การทดสอบทีแบบไม่เป็นอิสระจากกัน ( t-test Dependent Sample )
ผลการศึกษาพบว่า
1. แบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่พัฒนาขึ้นมีประสิทธิภาพ 86.50/84.44 เป็นไปตามเกณฑ์และสูงกว่าเกณฑ์ที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 ที่เรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/4 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลเพ็ญประชานุxxxล ตำบลเพ็ญ อำเภอเพ็ญ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 1 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยแบบฝึกเสริมทักษะการเขียนคำในมาตราตัวสะกด ภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด