รายงานการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ
โดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6
ผู้ศึกษา นางสาวสุชาดา อินมี
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การจัดการเรียนรู้ภาษาอังกฤษยังคงประสบปัญหาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนต่ำ นักเรียนขาดทักษะในการเรียนรู้โดยเฉพาะทักษะด้านการอ่าน ทำให้นักเรียนไม่สามารถแสวงหาความรู้ได้ด้วยตนเองหรือสื่อสารให้คนอื่นเข้าใจ นอกจากนี้อาจเป็นเพราะครูขาดแคลนสื่อการเรียนการสอนที่ดีและใช้วิธีสอนที่ไม่เหมาะสม ดังนั้นผู้ศึกษาจึงได้สร้างแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยการศึกษาครั้งนี้มีความมุ่งหมายเพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคการสอน
อ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผล
การใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โดยเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน และเปรียบเทียบความสามารถในการเรียนหลังเรียนสำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 กับเกณฑ์ร้อยละ 80 3) เพื่อประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 ในการพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียน
วัดธงชัยธรรมจักร สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาประจวบคิรีขันธ์ เขต 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวนนักเรียน 28 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา มี 4 ชนิด ได้แก่ 1) ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 6 เล่ม ใช้เวลา 18 ชั่วโมง มีค่าเฉลี่ยความสอดคล้องเท่ากับ 4.77 2) แผนการจัดการเรียนรู้ประกอบการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษา
ปีที่ 6 จำนวน 6 แผน รวม 18 ชั่วโมง ค่าเฉลี่ยความสอดคล้องเท่ากับ 4.96 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ ซึ่งมีค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.30 ถึง 0.82 มีค่าความยากง่ายตั้งแต่ 0.26 – 0.86 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.87 และ 4) แบบวัด
ความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ จำนวน 20 ข้อ ค่าอำนาจจำแนกตั้งแต่ 0.54 ถึง 0.83 ค่าความเชื่อมั่นเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้
ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบสมมุติฐานด้วย
t – test (Dependent Samples)
ผลการศึกษาปรากฏดังนี้
1. ประสิทธิภาพของชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 83.75 / 81.31
ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ 80/80 ที่ตั้งไว้ และมีค่าดัชนีประสิทธิผล เท่ากับ 0. 6215 แสดงว่า นักเรียน
มีความก้าวหน้าทางการเรียนรู้คิดเป็นร้อยละ 62.15
2. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่เรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA มีคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่าง
มีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้ชุดแบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA อยู่ในระดับมากที่สุด มีคะแนนเฉลี่ยโดยรวมเท่ากับ 4.86
โดยสรุป การพัฒนาทักษะการอ่านภาษาอังกฤษ โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านภาษาอังกฤษโดยใช้เทคนิคการสอนอ่านแบบ DR-TA สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 มีประสิทธิภาพและสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนรู้ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของการเรียนการสอนได้