พัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ป.3 ด้วย STAD
ชื่อการศึกษา ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทารามโดยใช้กิจกรรม การเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
ผู้ศึกษา ธัญวรัตน์ ไก่สระแก้ว
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทารามโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมรามก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD 2) ศึกษาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และ3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล วัดโขดทิมทาราม จังหวัดระยอง จำนวน 38 คน ที่ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้วิธีจับฉลากเลือกมา 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD วิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน รวม 20 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ3) แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ประกอบด้วยประเด็น การประเมิน 5 ประเด็น ได้แก่ 1) การวางแผนการทำงาน 2) การให้ความร่วมมือ 3) การแสดงความคิดเห็นขณะทำงานกลุ่ม 4) ความสนใจ กระตือรือร้นในการทำงาน และ 5) ความรับผิดชอบในหน้าที่ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด จำนวน 15 ข้อ
ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD พบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่มโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = 17.83, S.D = 0.83) และเมื่อพิจารณาเป็นรายแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยในแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 10 สูงที่สุด อยู่ในระดับดีมาก ( = 19.16, S.D. = 0.89) รองลงมาเป็นเป็นคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยในแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ 9 อยู่ในระดับดีมาก ( = 18.61, S.D. = 1.76) ส่วนคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยใน แผนการจัดกิจกรรมการเรียนที่ 1 ต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับดีมาก ( = 16.03, S.D. = 3.06) 3) นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D = 0.12) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีความสนุกสนาน เพลิดเพลินและพึงพอใจกับการเรียนด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ( = 4.68, S.D = 0.47) รองลงมาคือ นักเรียนมีความสุขในการเรียนภาษาอังกฤษ ( = 4.66, S.D = 0.48) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ เนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องไม่ยากเกินไป ( = 4.26, S.D = 0.60)
ผู้ศึกษา ธัญวรัตน์ ไก่สระแก้ว
ปีการศึกษา 2560
บทคัดย่อ
ผลการพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษและพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมทารามโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD การศึกษาในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ เพื่อ 1) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 โรงเรียนเทศบาลวัดโขดทิมรามก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD 2) ศึกษาพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD และ3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนโดยใช้กิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD
กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3/6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2560 โรงเรียนเทศบาล วัดโขดทิมทาราม จังหวัดระยอง จำนวน 38 คน ที่ได้มาด้วยวิธีการสุ่มแบบกลุ่ม โดยใช้วิธีจับฉลากเลือกมา 1 ห้องเรียน เครื่องมือที่ใช้ประกอบด้วย 1) แผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD วิชาภาษาอังกฤษ ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 จำนวน 10 แผน รวม 20 ชั่วโมง 2) แบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ซึ่งเป็นแบบทดสอบชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และ3) แบบประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด ประกอบด้วยประเด็น การประเมิน 5 ประเด็น ได้แก่ 1) การวางแผนการทำงาน 2) การให้ความร่วมมือ 3) การแสดงความคิดเห็นขณะทำงานกลุ่ม 4) ความสนใจ กระตือรือร้นในการทำงาน และ 5) ความรับผิดชอบในหน้าที่ และ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า (rating scale) 5 ระดับ คือ มากที่สุด มาก ปานกลาง น้อย น้อยที่สุด จำนวน 15 ข้อ
ผลการศึกษาพบว่า 1) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาภาษาอังกฤษของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 หลังเรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ 2) คะแนนเฉลี่ยพฤติกรรมการทำงานกลุ่มของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD พบว่า นักเรียนมีพฤติกรรมการทำงานกลุ่มโดยรวมอยู่ในระดับดีมาก ( = 17.83, S.D = 0.83) และเมื่อพิจารณาเป็นรายแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนมีคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยในแผนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 10 สูงที่สุด อยู่ในระดับดีมาก ( = 19.16, S.D. = 0.89) รองลงมาเป็นเป็นคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยในแผนการจัดกิจกรรม การเรียนรู้ที่ 9 อยู่ในระดับดีมาก ( = 18.61, S.D. = 1.76) ส่วนคะแนนพฤติกรรมการทำงานกลุ่มเฉลี่ยใน แผนการจัดกิจกรรมการเรียนที่ 1 ต่ำที่สุด แต่ยังคงอยู่ในระดับดีมาก ( = 16.03, S.D. = 3.06) 3) นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้แบบกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด ( = 4.52, S.D = 0.12) เมื่อพิจารณาเป็นรายข้อ พบว่า ข้อที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด คือ นักเรียนมีความสนุกสนาน เพลิดเพลินและพึงพอใจกับการเรียนด้วยกระบวนการกลุ่มร่วมมือเทคนิค STAD ( = 4.68, S.D = 0.47) รองลงมาคือ นักเรียนมีความสุขในการเรียนภาษาอังกฤษ ( = 4.66, S.D = 0.48) และข้อที่มีค่าเฉลี่ยต่ำสุดคือ เนื้อหาที่เรียนเป็นเรื่องไม่ยากเกินไป ( = 4.26, S.D = 0.60)