การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong
ชื่อเรื่อง การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong
District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นางสาววชิกา สาระขันธ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนยูงทองพิทยาคม อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20
ปีที่พิมพ์ 2556
บทคัดย่[center]อ[/center]
การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฉบับนี้ เป็นผลจากการนำนวัตกรรมที่เป็นหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษที่ผู้ศึกษาได้พัฒนาขึ้น มาพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 8 เล่ม
เมื่อได้นำไปดำเนินการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีการปรับปรุงแก้ไข และพัฒนากระบวนการให้ดีขึ้น
อย่างต่อเนื่อง และเกิดสัมฤทธิผลเป็นที่พอใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 หาค่าดัชนีประสิทธิผลของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษระหว่างก่อนและหลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนยูงทองพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 จำนวน 36 คน
ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 ทุกแผน หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษจำนวน 8 เล่ม มีคุณภาพเหมาะสมมากที่สุด ( 4.72) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากรายข้อ ตั้งแต่ 0.50–0.75 มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.22–0.67 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และแบบสอบถามความพึงพอใจ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.31-0.76 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ใน
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 82.87/82.71
2. ดัชนีประสิทธิผลของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7451 แสดงว่าผู้เรียน
มีความก้าวหน้าในการเรียนขึ้นร้อยละ 74.51
3. นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในบทเรียน อยากรู้อยากเรียนและรับความรู้อย่างมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน จึงควรสนับสนุนส่งเสริมให้ครูนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ต่อไป
District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
ผู้ศึกษา นางสาววชิกา สาระขันธ์
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
สถานศึกษา โรงเรียนยูงทองพิทยาคม อำเภอนายูง จังหวัดอุดรธานี
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20
ปีที่พิมพ์ 2556
บทคัดย่[center]อ[/center]
การพัฒนาหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ฉบับนี้ เป็นผลจากการนำนวัตกรรมที่เป็นหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษที่ผู้ศึกษาได้พัฒนาขึ้น มาพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ จำนวน 8 เล่ม
เมื่อได้นำไปดำเนินการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มีการปรับปรุงแก้ไข และพัฒนากระบวนการให้ดีขึ้น
อย่างต่อเนื่อง และเกิดสัมฤทธิผลเป็นที่พอใจกับผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ตามเกณฑ์ 80/80 หาค่าดัชนีประสิทธิผลของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ
เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษระหว่างก่อนและหลังเรียน และศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 โรงเรียนยูงทองพิทยาคม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 20 จำนวน 36 คน
ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ประกอบด้วย แผนการจัดการเรียนรู้ จำนวน 8 แผน มีค่า IOC เท่ากับ 1.00 ทุกแผน หนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษจำนวน 8 เล่ม มีคุณภาพเหมาะสมมากที่สุด ( 4.72) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบทดสอบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ มีค่าความยากรายข้อ ตั้งแต่ 0.50–0.75 มีค่าอำนาจจำแนก ตั้งแต่ 0.22–0.67 มีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.92 และแบบสอบถามความพึงพอใจ ชนิดมาตราส่วนประมาณค่า 5 ระดับ ตามวิธีของลิเคอร์ท (Likert) จำนวน 20 ข้อ มีค่าอำนาจจำแนกรายข้อตั้งแต่ 0.31-0.76 และค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับเท่ากับ 0.89 สถิติที่ใช้ใน
การวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้ คือ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบ t-test
ผลการศึกษาพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เท่ากับ 82.87/82.71
2. ดัชนีประสิทธิผลของหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีค่าเท่ากับ 0.7451 แสดงว่าผู้เรียน
มีความก้าวหน้าในการเรียนขึ้นร้อยละ 74.51
3. นักเรียนที่เรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าคะแนนก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
4. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1
โดยรวมอยู่ในระดับมากที่สุด
การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยหนังสือส่งเสริมการอ่านภาษาอังกฤษ ชุด Tourism in Nayoong District เป็นการกระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจในบทเรียน อยากรู้อยากเรียนและรับความรู้อย่างมีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน จึงควรสนับสนุนส่งเสริมให้ครูนำไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เพื่อช่วยให้บรรลุวัตถุประสงค์การเรียนรู้ต่อไป