การพัฒนารูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผล เพื่อส่งเสริม
สมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง)
ชื่อผู้วิจัย : นางอุษณิษา ภาคยานุวัติ
หน่วยงาน : โรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง) สังกัดกองการศึกษาเทศบาลตำบลพะตง
อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา
ปีการศึกษา : 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนารูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วย
เหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง)
2) ประเมินผลการใช้รูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูโรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง) กลุ่มเป้าหมายในการวิจัย ได้แก่ ครูและนักเรียนโรงเรียนเทศบาล ๑ (ชุมชนบ้านอุดมทอง) ในปีการศึกษา 2559 จำแนกเป็นครูกลุ่มอ้างอิง จำนวน 7 คน ครูผู้สอน จำนวน 19 คน นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 1-3 จำนวน 181 คน และนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 จำนวน 389 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยได้แก่ แบบวิเคราะห์เอกสาร แบบทดสอบ แบบสอบถาม แบบประเมินและประเด็นการสนทนากลุ่ม การวิเคราะห์ข้อมูลใช้ค่าร้อยละ (%) ค่าเฉลี่ย ( ) ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D.) ค่า t-test แบบ Dependent และ
การวิเคราะห์เนื้อหา (Content Analysis)
ผลวิจัยพบว่า
1) รูปแบบการบริหารมีชื่อว่าการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู (P2BDIAR Model) ประกอบด้วยหลักการ ได้แก่ การบริหารงานวิชาการโดยเน้นการสร้างเจตคติและบุคคลกลุ่มอ้างอิงให้คล้อยตามในการปฏิบัติงานย่อมทำให้ครูมีสมรรถภาพในการปฏิบัติงาน และส่งผลต่อคุณภาพของผู้เรียน วัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูและยกระดับคุณภาพผู้เรียน กระบวนการบริหาร 7 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนที่ 1 การวางแผน (Planning) ขั้นตอนที่ 2 สร้างเจตคติ (Build the Attitude) ขั้นตอนที่ 3 สร้างกลุ่มอ้างอิง (Build the Reference Group) ขั้นตอนที่ 4 การให้ตัดสินใจ (Decision Making) ขั้นตอนที่ 5 การให้ศึกษาความรู้ (Information) ขั้นตอนที่ 6 ปฏิบัติการวิจัยในชั้นเรียน (Action Research) และขั้นตอนที่ 7 การยกย่องชมเชย (Recognition) โดยมีเงื่อนไขการนำรูปแบบไปใช้ ได้แก่ 1) ครูมีเจตคติที่ดีต่อการวิจัยในชั้นเรียน 2) ครูกลุ่มอ้างอิงจะต้องเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถในการวิจัยในชั้นเรียนและเป็นบุคคลที่ครูมีความเชื่อมั่นศรัทธาทั้งด้านความรู้ความสามารถในการวิจัยในชั้นเรียนและด้านการปฏิบัติตนในลักษณะที่มีความเป็นกัลยาณมิตรสูง 3) ผู้บริหารจะต้องให้การสนับสนุนส่งเสริมครูกลุ่มอ้างอิงในด้านการกระจายอำนาจในการบริหาร การส่งเสริมให้มีความรู้ ความสามารถให้ก้าวทันต่อการเปลี่ยนแปลง และให้ขวัญกำลังใจทั้งในระหว่างดำเนินการและหลังดำเนินการ
2) ผลการใช้รูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพ
การวิจัยในชั้นเรียนของครู พบว่าสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูหลังการใช้รูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครูอยู่ในระดับสูง ครูมีความพึงพอใจต่อรูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู อยู่ในระดับมากที่สุด และครูมีเจตคติที่ดีต่อการวิจัยใน
ชั้นเรียนในระดับมากที่สุด และนักเรียนมีผลการเรียนรู้ก่อนและหลังการใช้รูปแบบการบริหารตามทฤษฎีการกระทำด้วยเหตุผลเพื่อส่งเสริมสมรรถภาพการวิจัยในชั้นเรียนของครู แตกต่างกันอย่าง
มีนัยทางสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05 โดยหลังการใช้รูปแบบการบริหาร นักเรียนมีผลการเรียนรู้ สูงกว่าก่อนการใช้รูปแบบการบริหาร