รายงานผลการใช้แบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่านการเขียนคำอักษรนำ คำควบกล้ำ
ผู้รายงาน นางดารุณี คำจันทร์วงค์ ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะชำนาญการ
สังกัด โรงเรียนบ้านขาแหย่งพัฒนา อำเภอแม่ฟ้าฟลวง จังหวัดเชียงราย
สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การดำเนินการศึกษาในครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำ และคำควบกล้ำ เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำ และคำควบกล้ำ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4
ประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ ได้แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านขาแหย่งพัฒนา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 3 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 21 คน
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เรื่อง การอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ จำนวน 1 เล่ม รวม 16 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ตอนที่ 1 แบบทดสอบวัดทักษะการอ่านจำนวน 15 คำ ตอนที่ 2 แบบทดสอบวัดทักษะการเขียน จำนวน 15 คำ รวมคะแนน 30 คะแนน แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน ด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เป็นแบบมาตราส่วนประมาณค่า(Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 12 ข้อ
สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ได้ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (S.D)
ผลการศึกษาพบว่า
1. ผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่า ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำและคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากกลุ่มทดลองแบบกลุ่มใหญ่ จำนวน 23 คน มีประสิทธิภาพสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80 คือ มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 82.19/83.62 และจากการนำไปใช้กับประชากรที่ศึกษา ได้แก่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 โรงเรียนบ้านขาแหย่งพัฒนา จำนวน 21 คน มีประสิทธิภาพ E1/E2 เท่ากับ 87.20/87.46 เป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำ และคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีมีคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 16.86 คะแนนคิดเป็นร้อยละ 56.19 ส่วนคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 26.24 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 87.46 เมื่อเปรียบเทียบคะแนนหลังเรียนกับก่อนเรียนด้วยค่าคะแนนความก้าวหน้าพบว่า มีค่าคะแนนความก้าวหน้าเฉลี่ย 9.38 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 31.27 สรุปได้ว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้
3. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนเรียนที่มีต่อการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนด้วยแบบฝึกทักษะพัฒนาการอ่าน การเขียนคำอักษรนำ และคำควบกล้ำ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ทั้ง 4 ด้านได้แก่ด้านความรู้สึกที่มีต่อการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระภาษาไทย ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน ด้านบทบาทของผู้เรียน และด้านบทบาทการสอนของครู มีค่าความพึงพอใจเฉลี่ย เท่ากับ 4.89 ซึ่งเป็นความพึงพอใจในระดับมากที่สุด