รายงานวิจัย
การวิจัยครั้งนี้มีมีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษา
ปีที่1 และ3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่1ประชากรที่ใช้ในการวิจัยเป็นนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนบ้านหนองเงือก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำพูน เขต 1 จำนวน 8 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วยแบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติ กับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ซึ่งครูผู้วิจัยสร้างขึ้น นำข้อมูลที่ได้จากการรวบรวมข้อมูลมาวิเคราะห์ด้วยโดยใช้สถิติค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละ ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและค่าเฉลี่ยร้อยละรวมทั้งหาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะโดยใช้สูตร E1/E2
ผลการวิจัย มีดังต่อไปนี้
1. แบบฝึกทักษะ เรื่อง ความสัมพันธ์ระหว่างรูปเรขาคณิตสองมิติกับสามมิติ ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ที่พัฒนาขึ้น มีประสิทธิภาพ 81.48/81.67 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะ พบว่า มีคะแนนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน มีคะแนนเฉลี่ยร้อยละที่เพิ่มขึ้นเท่ากับ 49.59 โดยคะแนน การทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยร้อยละเท่ากับ 32.08 และ 81.67 ตามลำดับ
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนคณิตศาสตร์โดยใช้แบบฝึกทักษะอยู่ในระดับมากที่สุด