รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ
ชื่อเรื่อง รายงานผลการพัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3
ผู้วิจัย ลินดา วรรณบูลย์
หน่วยงานที่สังกัด โรงเรียนวัดปากปรน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ ทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดปากปรน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 จำนวน 14 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากโรงเรียนวัดปากปรน มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพียงห้องเรียนเดียวและผู้วิจัยเป็นผู้สอนนักเรียนในระดับชั้นนั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ 2) คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรื่องตามจินตนาการ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าสัมประสิทธิ์ของความเชื่อมั่น และ สถิติ t – test แบบ Paired -Samples t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ มีประสิทธิภาพ 83.82/82.86
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ อยู่ในระดับมากที่สุด
ผู้วิจัย ลินดา วรรณบูลย์
หน่วยงานที่สังกัด โรงเรียนวัดปากปรน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1
ปีการศึกษา 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนาแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ ให้มีประสิทธิภาพ 80/80 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ ทั้งก่อนเรียนและหลังเรียน และ 3) ศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ
กลุ่มเป้าหมายที่ใช้ในการวิจัยในครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 ที่กำลังศึกษาในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนวัดปากปรน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาตรัง เขต 1 จำนวน 14 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เนื่องจากโรงเรียนวัดปากปรน มีนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 เพียงห้องเรียนเดียวและผู้วิจัยเป็นผู้สอนนักเรียนในระดับชั้นนั้น เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ 2) คู่มือการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ 3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรื่องตามจินตนาการ และ 4) แบบประเมินความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย ค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าร้อยละ ค่าสัมประสิทธิ์ของความเชื่อมั่น และ สถิติ t – test แบบ Paired -Samples t-test
ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ มีประสิทธิภาพ 83.82/82.86
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนหลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรื่องตามจินตนาการ อยู่ในระดับมากที่สุด