การวิจัยและพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน
ชื่องานวิจัย การวิจัยและพัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน
“เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้วิจัย นายสัมนาการณ์ บุญเรือง
พ.ศ. 2560
หน่วยงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
บทคัดย่อ
การวิจัยและการพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ 2) ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานและตัวชี้วัดดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ 3) ทำคู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ และ 4) ประเมินประสิทธิผลของการใช้คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ วิธีดำเนินการวิจัย ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานทั้งวิธีการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือวิจัยได้แก่ แบบสนทนากลุ่มและแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การตรวจสอบความตรงของเนื้อหา โดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง การตรวจสอบความเที่ยงโดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาค ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที
สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน
“เฉลิมราชกุมารี” มีจำนวน 5 มาตรฐาน 46 ตัวชี้วัด 2) มาตรฐานทุกมาตรฐานมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมาตรฐานที่ 2 ด้านการบริการ/การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด นอกนั้นอยู่ในระดับมาก และเป็นตัวชี้วัดสภาพที่เป็นจริงได้เหมาะสมในระดับมาก 3) คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ มุ่งเน้นการนำมาตรฐานและตัวชี้วัดห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” และเกณฑ์การประเมินที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในการประเมินและพัฒนาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” และ 4) ผลการประเมินประสิทธิผลของการใช้คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าระดับความพึงพอใจของผู้ใช้คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ มีประสิทธิผลตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้
Research Title: Research and Development of Chalermrajakumari Public
Library’s Standards and Indicators at Nongki District in Buriram Province
Researcher: Mr. Sammanakan Boonruang
Year: 2017
Institution: Nongki District Non-Formal and Informal Education Centre in Buriram Province
Abstract
This research and development was aimed at 1) developing Chalermrajakumari
Public Library’s standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, 2) examining the qualities of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, 3) developing the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, and 4) evaluating the effectiveness of using the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province. Mixed methods, both quantitative and qualitative, were used in this research. The research instruments consisted of a focus group and a questionnaire. The data analysis included content analysis, index of Item-Objective Congruence (IOC) content validity, coefficient Cronbach alpha reliability, percentage, mean, standard deviation, and t-test.
The findings of this research showed that 1) Chalermrajakumari Public Library’s
standards and indicators had five standards, forty-six indicators; 2) all standards had overall appropriateness at the high level, with the 2nd standard, services/long life learning activities were evaluated at the highest level while other aspects were at the high level, and also were indicators that were able to measure actual situation appropriately at the high level; 3) the manual was aimed at applying Chalermrajakumari Public Library’s standards, indicators, and developed criteria to evaluating and developing Chalermrajakumari Public Library; and 4) the results of evaluating the effectiveness of using the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province were found that the satisfaction of those who used the manual was overall at the high level, which had the effectiveness in accordance with the intended purpose.
“เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
ผู้วิจัย นายสัมนาการณ์ บุญเรือง
พ.ศ. 2560
หน่วยงาน ศูนย์การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์
บทคัดย่อ
การวิจัยและการพัฒนานี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) พัฒนามาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ 2) ตรวจสอบคุณภาพมาตรฐานและตัวชี้วัดดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ 3) ทำคู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานของห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ และ 4) ประเมินประสิทธิผลของการใช้คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ วิธีดำเนินการวิจัย ใช้วิธีการวิจัยแบบผสมผสานทั้งวิธีการเชิงปริมาณและเชิงคุณภาพ เครื่องมือวิจัยได้แก่ แบบสนทนากลุ่มและแบบสอบถาม การวิเคราะห์ข้อมูล ใช้การวิเคราะห์เนื้อหา การตรวจสอบความตรงของเนื้อหา โดยหาค่าดัชนีความสอดคล้อง การตรวจสอบความเที่ยงโดยวิธีหาค่าสัมประสิทธิ์อัลฟ่าของครอนบาค ร้อยละ ค่าเฉลี่ย
ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และทดสอบค่าที
สรุปผลการวิจัยพบว่า 1) มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน
“เฉลิมราชกุมารี” มีจำนวน 5 มาตรฐาน 46 ตัวชี้วัด 2) มาตรฐานทุกมาตรฐานมีความเหมาะสมโดยรวมอยู่ในระดับมาก โดยมาตรฐานที่ 2 ด้านการบริการ/การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตลอดชีวิต มีผลการประเมินอยู่ในระดับมากที่สุด นอกนั้นอยู่ในระดับมาก และเป็นตัวชี้วัดสภาพที่เป็นจริงได้เหมาะสมในระดับมาก 3) คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ มุ่งเน้นการนำมาตรฐานและตัวชี้วัดห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” และเกณฑ์การประเมินที่พัฒนาขึ้นไปใช้ในการประเมินและพัฒนาห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” และ 4) ผลการประเมินประสิทธิผลของการใช้คู่มือมาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ พบว่าระดับความพึงพอใจของผู้ใช้คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ ในภาพรวมอยู่ในระดับมาก คู่มือการใช้มาตรฐานและตัวชี้วัดการดำเนินงานห้องสมุดประชาชน “เฉลิมราชกุมารี” อำเภอหนองกี่ จังหวัดบุรีรัมย์ มีประสิทธิผลตามจุดมุ่งหมายที่วางไว้
Research Title: Research and Development of Chalermrajakumari Public
Library’s Standards and Indicators at Nongki District in Buriram Province
Researcher: Mr. Sammanakan Boonruang
Year: 2017
Institution: Nongki District Non-Formal and Informal Education Centre in Buriram Province
Abstract
This research and development was aimed at 1) developing Chalermrajakumari
Public Library’s standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, 2) examining the qualities of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, 3) developing the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province, and 4) evaluating the effectiveness of using the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province. Mixed methods, both quantitative and qualitative, were used in this research. The research instruments consisted of a focus group and a questionnaire. The data analysis included content analysis, index of Item-Objective Congruence (IOC) content validity, coefficient Cronbach alpha reliability, percentage, mean, standard deviation, and t-test.
The findings of this research showed that 1) Chalermrajakumari Public Library’s
standards and indicators had five standards, forty-six indicators; 2) all standards had overall appropriateness at the high level, with the 2nd standard, services/long life learning activities were evaluated at the highest level while other aspects were at the high level, and also were indicators that were able to measure actual situation appropriately at the high level; 3) the manual was aimed at applying Chalermrajakumari Public Library’s standards, indicators, and developed criteria to evaluating and developing Chalermrajakumari Public Library; and 4) the results of evaluating the effectiveness of using the manual of its standards and indicators at Nongki District in Buriram Province were found that the satisfaction of those who used the manual was overall at the high level, which had the effectiveness in accordance with the intended purpose.