ผลการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
บทคัดย่อ
ชื่อเรื่อง : ผลการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้
ชื่อผู้ศึกษา : นางรัตติกรณ์ วิรัตน์เกษม
สถานศึกษา : โรงเรียนบ้านหลู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4
ปีการศึกษา : 2556
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียน เรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้จาก การเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากที่ผู้ศึกษาได้นำแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความและแผนการจัดการเรียนรู้ไปปรับปรุงแก้ไขแล้ว จึงได้นำไปทดลองกับกลุ่มประชากร ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 22 คน นำผลการทดลองวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ
วิธีดำเนินการศึกษามีดังนี้ ทดสอบก่อนเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อวัดความรู้พื้นฐานของนักเรียน และบันทึกคะแนนเป็นคะแนนก่อนเรียน ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัด การเรียนรู้ เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตรวจ สังเกตพฤติกรรม และบันทึกคะแนนของนักเรียนระหว่างที่เรียนทุกแผนการจัดการเรียนรู้ ทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรียงความ ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดความรู้หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย แล้วบันทึกคะแนนที่ได้เป็นคะแนนการทดสอบหลังเรียน ให้นักเรียนทุกคนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ ตรวจ และบันทึกคะแนนภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยหลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียน
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับมาก
ชื่อเรื่อง : ผลการใช้แบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้
ชื่อผู้ศึกษา : นางรัตติกรณ์ วิรัตน์เกษม
สถานศึกษา : โรงเรียนบ้านหลู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4
ปีการศึกษา : 2556
การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียน เรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้จาก การเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ และเพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 หลังจากที่ผู้ศึกษาได้นำแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความและแผนการจัดการเรียนรู้ไปปรับปรุงแก้ไขแล้ว จึงได้นำไปทดลองกับกลุ่มประชากร ซึ่งเป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาเชียงราย เขต 4 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 22 คน นำผลการทดลองวิเคราะห์หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน และความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ
เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 7 เล่ม แผนการจัดการเรียนรู้ เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 แผน แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ และแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 6 แบบมาตราส่วนประมาณค่า (Rating Scale) 5 ระดับ จำนวน 18 ข้อ
วิธีดำเนินการศึกษามีดังนี้ ทดสอบก่อนเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน
เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เพื่อวัดความรู้พื้นฐานของนักเรียน และบันทึกคะแนนเป็นคะแนนก่อนเรียน ดำเนินการจัดกิจกรรมตามแผนการจัด การเรียนรู้ เรื่อง การเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ตรวจ สังเกตพฤติกรรม และบันทึกคะแนนของนักเรียนระหว่างที่เรียนทุกแผนการจัดการเรียนรู้ ทดสอบหลังเรียนด้วยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เรื่อง การเขียนเรียงความ ซึ่งเป็นฉบับเดียวกับการทดสอบก่อนเรียน เพื่อวัดความรู้หลังจากจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย แล้วบันทึกคะแนนที่ได้เป็นคะแนนการทดสอบหลังเรียน ให้นักเรียนทุกคนตอบแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ ตรวจ และบันทึกคะแนนภายหลังการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าประสิทธิภาพ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษา พบว่า
1. ประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 สูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้ที่เรียนด้วยแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทยหลังเรียน
สูงกว่าก่อนเรียน
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนบ้านหลู้มีความพึงพอใจต่อแบบฝึกทักษะการเขียนเรียงความ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย อยู่ในระดับมาก