LASTEST NEWS

31 ส.ค. 2567สพป.ขอนแก่น เขต 4 รับสมัครพนักงานราชการครู 12 อัตรา เงินเดือน 18,000- บาท ตั้งแต่วันที่ 9-13 กันยายน 2567 30 ส.ค. 2567กรมป่าไม้ เปิดสอบบรรจุเข้ารับราชการ 30 อัตรา สมัครทางอินเทอร์เน็ต ตั้งแต่วันที่ 2 - 26 กันยายน 2567 ตลอด 24 ชั่วโมง ไม่เว้นวันหยุดราชการ 30 ส.ค. 2567สพป.อุบลราชธานี เขต 4 รับสมัครพนักงานจ้างเหมาบริการ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่คอมพิวเตอร์ เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 4 กันยายน 2567 30 ส.ค. 2567(( รวมลิงก์ )) ประกาศผลการย้ายครู รอบที่ 2 ประจำปี พ.ศ.2567 ทุกจังหวัด ทุกเขตพื้นที่ฯ ทั่วประเทศ 30 ส.ค. 2567โรงเรียนบ้านปากน้ำ รับสมัครธุรการโรงเรียน วุฒิปริญญาตรีทุกสาขา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 2 กันยายน 2567  30 ส.ค. 2567โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดน รับสมัครครูอัตราจ้าง 4 อัตรา เงินเดือน 15,000.-บาท ตั้งแต่วันที่ 2-6 กันยายน 2567  29 ส.ค. 2567โรงเรียนบ้านปากคลอง รับสมัครธุรการโรงเรียน เงินเดือน 9,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 31 สิงหาคม 2567 29 ส.ค. 2567ด่วน!! ก.ค.ศ.อนุมัติอัตราว่างจากการเกษียณอายุราชการฯ เมื่อสิ้นปีงบประมาณ พ.ศ.2567 จำนวน 13,181 อัตรา 29 ส.ค. 2567โรงเรียนวัดหนองขานาง รับสมัครครูอัตราจ้าง วิชาเอกปฐมวัย เงินเดือน 6,000.- บาท ตั้งแต่บัดนี้ - 10 กันยายน 2567 28 ส.ค. 2567สพม.อุบลราชธานี อำนาจเจริญ เรียกบรรจุครูผู้ช่วย รอบที่ 4 จำนวน 6 อัตรา - รายงานตัว 3 กันยายน 2567

การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ฯ

usericon

ชื่อเรื่อง         การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ผู้วิจัย     นางสยามนต์ บุญชิต
ตำแหน่ง    ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
โรงเรียน    ตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ
สังกัด องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น กระทรวงมหาดไทย
ปีที่พิมพ์ 2558
บทคัดย่อ
    การวิจัยครั้งนี้เป็นการพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อศึกษาข้อมูลพื้นฐาน สภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น และความต้องการจำเป็นในการจัดการเรียนรู้แบบซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปา ร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และ 4) เพื่อประเมินรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
    กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ประกอบด้วยนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ปีการศึกษา 2558 จำนวน 30 คน และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัย ด้านการวัดผลและประเมินผล ด้านการนิเทศ และการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 5 ท่าน เจ้าของแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น จำนวน 10 คน ครูผู้สอนวิชาภาษาไทยระดับชั้นมัธยมศึกษาเพื่อร่วมถอดบทเรียนในการประเมินรูปแบบการเรียนการสอน จำนวน 5 คน ดำเนินการวิจัยโดยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงพัฒนา (Research and Development)
    เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัยประกอบด้วย 1) แบบสอบถามเกี่ยวกับความพร้อมของสภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 1 ฉบับ 2) แบบสัมภาษณ์เกี่ยวกับความพร้อมของสภาพบริบทด้านแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี จำนวน 1 ฉบับ 3) แบบสอบถามความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปา จำนวน 1 ฉบับ 4) รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และเอกสารประกอบรูปแบบ 5) แบบทดสอบวัดความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว จำนวน 1 ฉบับ 6) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ฉบับ และ 7) แบบบันทึกการถอดบทเรียนการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
    การวิเคราะห์ข้อมูลด้วยสถิติพื้นฐาน ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานหาประสิทธิภาพของรูปแบบโดยใช้สูต E1/E2 และทดสอบความแตกต่างของค่าเฉลี่ยโดยการทดสอบที (t-test Dependence Sample) ในส่วนของข้อมูลเชิงคุณภาพผู้วิจัยใช้การวิเคราะห์ข้อมูลโดยวิธีพรรณนาวิเคราะห์ (Content Analysis)

ผลการวิจัยพบว่า
    1. ผลการวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐาน เป็นการศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลพื้นฐานที่เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ผลการศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ประกอบด้วย สาระการอ่าน สาระการเขียน สาระการฟัง การดู และการพูด สาระหลักการใช้ภาษาไทย และสาระวรรณคดีและวรรณกรรม ผลการศึกษาสภาพความพร้อมของบริบทแหล่งเรียนรู้ภายในท้องถิ่นและความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้ภาษาไทยแบบซิปปาได้ข้อสรุปว่า หลักการ ทฤษฎีต่างๆ ที่ผู้วิจัยศึกษาเพื่อใช้เป็นกรอบแนวคิดในการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนมีความเหมาะสมสอดคล้องกับรูปแบบที่สร้างขึ้น และเมื่อศึกษาสภาพความพร้อมของบริบทแหล่งเรียนรู้ภายในท้องถิ่น โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี พบว่า แหล่งเรียนรู้มีความพร้อมและเอื้อต่อการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนนี้ ทั้งเจ้าของแหล่งเรียนรู้ยังยินดีให้ความร่วมมือ และพร้อมอำนวยความสะดวกในด้านต่างๆ แก่นักเรียน นอกจากนี้ ผลการศึกษาความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้แบบซิปปา พบว่า นักเรียนมีความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้ แบบการซิปปาอยู่ในระดับมากที่สุด
    2. ผลการสร้างและพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า ผู้เชี่ยวชาญทั้ง 5 ท่าน มีความคิดเห็นว่าทั้ง 3 ด้าน ได้แก่ ด้านความเหมาะสมสอดคล้องของหลักการทฤษฎีต่าง ๆ ด้านความเป็นไปได้ของรูปแบบ และด้านความเป็นประโยชน์ของรูปแบบ มีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และโดยภาพรวม รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้ แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ที่สร้างขึ้นมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด (x-bar = 4.64)
    3. ผลการทดลองใช้รูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า นักเรียนได้คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นก่อนเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนนี้ เท่ากับ 23.23 และได้คะแนนเฉลี่ยความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่นหลังเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนนี้ เท่ากับ 41.77 จากคะแนนเต็ม 48 คะแนน เมื่อพิจารณาผลการวิเคราะห์ประสิทธิภาพของรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 พบว่า รูปแบบมีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 86.41/87.01 ซึ่งมีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80
    4. ผลการประเมินรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ผู้วิจัยพิจารณาอยู่ 3 ประเด็น กล่าวคือ 1) ประเด็นผลผลิต คือความสามารถของนักเรียนด้านการเขียนสารคดี 2) ประเด็นความพึงพอใจของผู้ใช้รูปแบบ คือความพึงพอใจของนักเรียน และ 3) ประเด็นการนำไปใช้และพัฒนาต่อเนื่อง ศึกษาจากครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษา จำนวน 5 ท่าน พบว่า ความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยว ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากการเรียนรู้ด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ส่วนประเด็นความพึงพอใจของนักเรียนต่อการเรียนรู้ พบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี มีความพึงพอใจต่อการเรียนด้วยรูปแบบการเรียนการสอนแบบซิปปาร่วมกับการใช้แหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น เพื่อพัฒนาความสามารถในการเขียนสารคดีท่องเที่ยวในท้องถิ่น อยู่ในระดับมากที่สุด (x-bar= 4.59) และผลการถอดบทเรียนเพื่อประเมินรูปแบบ โดยสรุป พบว่า ครูผู้สอนภาษาไทยเห็นพ้องต้องกันว่ารูปแบบการเรียนการสอนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นมีความเป็นประโยชน์ และเป็นไปได้ในทางปฏิบัติ เหมาะกับการพัฒนานักเรียนและสามารถต่อยอด ประยุกต์ในเนื้อหาอื่นๆ และรายวิชาอื่นๆ ได้อย่างดี
ร่วมแสดงความคิดเห็น
เงื่อนไข การร่วมแสดงความคิดเห็น!

ข้อความที่ท่านได้อ่าน เกิดจากการเขียนโดยสาธารณชน และส่งขึ้นมาแบบอัตโนมัติ เจ้าของเว็บไซต์ไม่รับผิดชอบต่อข้อความใดๆ ทั้งสิ้น เพราะไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นความจริงหรือ ชื่อผู้เขียนที่ได้เห็นคือชื่อจริง ผู้อ่านจึงควรใช้วิจารณญาณในการกลั่นกรอง และถ้าท่านพบเห็นข้อความใดที่ขัดต่อกฎหมายและศีลธรรม หรือเป็นการกลั่นแกล้งเพื่อให้เกิดความเสียหาย ต่อบุคคล หรือหน่วยงานใด กรุณาแจ้งมาที่ แนะนำติชม เพื่อให้ผู้ควบคุมระบบทราบและทำการลบข้อความนั้น ออกจากระบบต่อไป

ขอขอบพระคุณล่วงหน้า มา ณ โอกาสนี้

^