การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูดของนางสาวณปภัช เสียมเหล็ก
ชื่อวิจัย: การพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียน
เทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง
ผู้วิจัย: นางสาวณปภัช เสียมเหล็ก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
สถานที่ทำงาน: โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชิงทะเล
ปีที่วิจัย: 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของวิจัยได้แก่ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้อจอง (3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์ด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/5 ชายและหญิง อายุ 5 ปี โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) ดำเนินการจัดกิจกรรมโดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง จำนวน 10 สัปดาห์ ในกิจกรรมเสริมประสบการณ์สัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 20 นาที ระยะเวลาทั้งสิ้น 50 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1)แผนการจัดการประสบการณ์ประกอบการใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 2) หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ 3) แบบประเมินสาระที่ควรรู้ เพื่อประเมินความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยมีแบบแผนการทดลองใช้แบบ One Group Pre-test Post-test Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐา ร้อยละของความก้าวหน้า และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 90.00/86.29
2. ความสามารถด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) หลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7739 แสดงว่า นักเรียนมีความสามารถด้านการฟังและการพูดเพิ่มขึ้น 0.7739 หรือคิดเป็นร้อยละ 77.39
เทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง
ผู้วิจัย: นางสาวณปภัช เสียมเหล็ก ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะครูชำนาญการ
สถานที่ทำงาน: โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
สังกัดกองการศึกษา เทศบาลตำบลเชิงทะเล
ปีที่วิจัย: 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีความมุ่งหมายของวิจัยได้แก่ (1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด ของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 (2) เพื่อเปรียบเทียบความสามารถด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) ก่อนเรียนและหลังเรียนโดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้อจอง (3)เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของการจัดประสบการณ์ด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ได้แก่ นักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2/5 ชายและหญิง อายุ 5 ปี โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 31 คน ซึ่งได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Custer Random Sampling) ดำเนินการจัดกิจกรรมโดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง จำนวน 10 สัปดาห์ ในกิจกรรมเสริมประสบการณ์สัปดาห์ละ 5 วันๆ ละ 20 นาที ระยะเวลาทั้งสิ้น 50 ครั้ง เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษา คือ 1)แผนการจัดการประสบการณ์ประกอบการใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 2) หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 และ 3) แบบประเมินสาระที่ควรรู้ เพื่อประเมินความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยมีแบบแผนการทดลองใช้แบบ One Group Pre-test Post-test Design สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐา ร้อยละของความก้าวหน้า และทดสอบสมมติฐานโดยใช้ค่าที (t-test Dependent Samples)
ผลการวิจัยพบว่า
1. ประสิทธิภาพของหนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจองเพื่อพัฒนาความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 เท่ากับ 90.00/86.29
2. ความสามารถด้านการฟังและการพูดของนักเรียนชั้นอนุบาลปีที่ 2 โรงเรียนเทศบาลเชิงทะเล (ตันติวิท) หลังการจัดประสบการณ์สูงกว่าก่อนการจัดประสบการณ์โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ดัชนีประสิทธิผลของความสามารถด้านการฟังและการพูด สำหรับชั้นอนุบาลปีที่ 2 โดยใช้หนังสือการ์ตูนประกอบคำคล้องจอง มีค่าดัชนีประสิทธิผลเท่ากับ 0.7739 แสดงว่า นักเรียนมีความสามารถด้านการฟังและการพูดเพิ่มขึ้น 0.7739 หรือคิดเป็นร้อยละ 77.39