การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฯ
ชื่อเรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่าน
อย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2
ผู้วิจัย นางสุรีย์พร กันเทพา
ตำแหน่ง ครู วิทยฐานะ ครูชำนาญการพิเศษ
สังกัด โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี องค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ
ปีที่พิมพ์ 2560
การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยและพัฒนามีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อศึกษาสภาพบริบทและความต้องการจำเป็นในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) เพื่อสร้างและพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 3) เพื่อทดลองใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 4) เพื่อประเมินรูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2/1 โรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี ตำบลตระกาจ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ สังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2558 จำนวน 32 คน ได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย (Simple Random Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ 1) คู่มือการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 2) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่มีค่าความยากง่ายอยู่ระหว่าง .63 ถึง .80 มีค่าอำนาจจำแนก .20 ถึง .55 และมีค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบเท่ากับ .94 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าประสิทธิภาพ E1/E2 และการทดสอบค่า t
ผลการวิจัยพบว่า
1. โดยภาพรวมโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคีมีความพร้อมด้านบริบทของโรงเรียนในการใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 อยู่ในระดับมากที่สุด และความคิดเห็นของนักเรียนโดยภาพรวมมีความต้องการจำเป็นในการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ อยู่ในระดับมากที่สุด
2. รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ที่สร้างขึ้น มีความเหมาะสมต่อการจัดการเรียนรู้ ตามบริบทและความต้องการจำเป็นของโรงเรียนตระกาศประชาสามัคคี โดยผู้เชี่ยวชาญเห็นว่ารูปแบบการจัดการเรียนรู้ที่ออกแบบโดยการนำเอาเทคนิค KWLA มาประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนมีความเหมาะสมอยู่ในระดับมากที่สุด และเมื่อทดลองภาคสนาม โดยการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 กับนักเรียนกลุ่มตัวอย่าง พบว่า ประสิทธิภาพของกระบวนการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 (E1) เท่ากับ 83.67 และประสิทธิภาพของผลลัพธ์ (E2) เท่ากับ 83.17 และเมื่อดำเนินการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. ผลการทดลองใช้รูปแบบในการจัดการเรียนรู้ตามแผนการจัดการเรียนรู้ ทั้ง 10 แผน พบว่า นักเรียนมีความกระตือรือร้น มีทัศนคติที่ดีต่อการเรียน มีการปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างนักเรียนด้วยกัน มีการร่วมมือกันในการทำงานโดยใช้กระบวนการกลุ่ม ตลอดจนแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถปฏิบัติกิจกรรมการเรียนรู้ได้อย่างดีและมีคะแนนการทดสอบย่อยหลังเรียนผ่านเกณฑ์ร้อยละ 100 ในทุกแผน
4. ผลการประเมินรูปแบบ พิจารณาจากผลต่างของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการอ่านอย่างมีวิจารณญาณและความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน พบว่า คะแนนหลังเรียนของนักเรียนที่เรียนโดยใช้การจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 สูงกว่าก่อนเรียน อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01 และนักเรียนมีความพึงพอใจต่อการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคนิค KWLA ร่วมกับการใช้แบบฝึกทักษะการอ่านอย่างมีวิจารณญาณ โดยใช้นิทานพื้นบ้านอีสาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 โดยภาพรวมอยู่ในระดับมากที่สุด