การพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0
ผู้ศึกษา นาง ธัชชาภรณ์ คินดอนทราย
ปีที่ศึกษา 2558
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ ดังนี้ 1) เพื่อศึกษาประสิทธิภาพของแผนการพัฒนากิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง เรื่อง Cheerful in Mind สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ตามเกณฑ์ 75/75 2) เพื่อศึกษาดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง และ
3) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และความสามารถในการเรียนรู้โดยการนำตนเอง ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ระหว่างก่อนและหลังเรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง กลุ่มตัวอย่างได้แก่ นักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 โรงเรียนเทศบาล 1 ทรงพลวิทยา อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2558 จำนวนทั้งสิ้น 27 คน เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย ได้แก่ แผนการกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง เรื่อง Cheerful in Mind สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบทดสอบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนภาษาอังกฤษ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แบบวัดเจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และแบบวัดความสามารถในการเรียนรู้โดยการนำตนเองของนักเรียนประถมศึกษาปีที่ 5 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ได้แก่ ร้อยละ ค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน และการทดสอบสมมุติฐานด้วยสถิติ t-test ผลการวิจัยพบว่า
1. กิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง เรื่อง Cheerful in Mind สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 79.62/77.49 เป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด
2. ดัชนีประสิทธิผลของกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง เรื่อง Cheerful in Mind สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เท่ากับ .67 หรือมีผลการเรียนเพิ่มขึ้นร้อยละ 67
3. นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ที่เรียนด้วยกิจกรรมการเรียนรู้ภาษาอังกฤษตามแนวคิดการศึกษายุค 4.0 ประกอบชุดการเรียนรู้โดยการนำตนเอง เรื่อง Cheerful in Mind มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน เจตคติต่อการเรียนภาษาอังกฤษ และความสามารถในการเรียนรู้โดยการนำตนเองหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
รายละเอียดเพิ่มเติม : http://krurakknowledge.url.ph/