เผยแพร่ผลงานทางวิชาการ
ชื่อเรื่อง : รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ
รหัสวิชา ง20208 สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรีพัทลุง
ชื่อผู้รายงาน : นางสาวธมนวรรณ เกื้อเส้ง
ปีการศึกษา : 2556
รายงานผลการพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ (1) เพื่อพัฒนาเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์มาตรฐาน 80/80 (2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนและหลังการใช้เอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 (3)เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนสตรีพัทลุง อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2556 จำนวน 30 คน ได้มาโดยการเลือกแบบเจาะจง (Purposive sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาประกอบด้วย(1) เอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 เล่ม (2) คู่มือการจัดการเรียนรู้ วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 จำนวน 11 แผน (3) แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 เป็นแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ (Multiple Choice) 4 ตัวเลือก จำนวน 40 ข้อ (4) แบบวัดความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 วิเคราะห์ข้อมูลโดยหาค่าเฉลี่ย (Mean) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Deviation)
ผลการศึกษาพบว่า
1. เอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีประสิทธิภาพ (E1/E2) เท่ากับ 81.60/83.50 ซึ่งเป็นไปตามเกณฑ์ที่กำหนด คือ 80/80
2. นักเรียนที่เรียนโดยใช้เอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศรหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .01
3. นักเรียนมีความพึงพอใจต่อเอกสารประกอบการเรียน วิชาห้องสมุดกับการรู้สารสนเทศ รหัสวิชา ง20208 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 อยู่ในระดับมาก มีค่าเฉลี่ยเท่ากับ 4.49 มีค่าบี่ยงเบนมาตรฐานเท่ากับ 0.21 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานข้อที่ 3
ดีมากๆค่ะ