พัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคาที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและ
ด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย
สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ผู้วิจัย : นางญาณินท์ พลับจีน
คำสำคัญ : แบบฝึกทักษะ การอ่านและการเขียนคำ สระเปลี่ยนรูป สระลดรูป
ปี พ.ศ. 2559
บทคัดย่อ
การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ 1) เพื่อพัฒนาแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำ ที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน หลังเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นถึงร้อยละ 80 3) เพื่อศึกษาระดับความพึงพอใจของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1
ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ คือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนอนุบาลลำปาง(เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 383 คน กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยคือ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1/11 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 โรงเรียนอนุบาลลำปาง (เขลางค์รัตน์อนุสรณ์) ตำบลเวียงเหนือ อำเภอเมืองลำปาง จังหวัดลำปาง สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาลำปางเขต1 จำนวน 33 คน เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล ได้แก่ 1) แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 5 เล่ม 2) แผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย เรื่องการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป จำนวน 25 แผน 3)แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน แบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4) แบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้ แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าเฉลี่ย (Arithmetic Mean) ร้อยละ (Percentage) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Standard Devistion) หาประสิทธิภาพของแบบฝึกทักษะโดยพิจารณาเกณฑ์ที่ผ่าน 80% สถิติที่ใช้ใน การทดสอบสมมุติฐาน ทดสอบค่าที (Dependent t-test Sample) ผลการวิจัยพบว่า
1. แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป
กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้นจำนวน 5 เล่ม
มีประสิทธิภาพ E1/E2 มีค่าเท่ากับ 92.13/90.61 โดยแบบฝึกทักษะทุกเล่มสูงกว่าเกณฑ์ที่กำหนด
E1/E2 เท่ากับ 80/80
2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1หลังจากเรียนด้วยแบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น พบว่า ค่าที (Dependent t-test Sample) มีค่า 38.83 และนักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียน(คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 18.12)สูงกว่าก่อนเรียน(คะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 11.00) อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติที่ระดับ .05
3. ระดับความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อการเรียนโดยใช้แบบฝึกทักษะการอ่านและการเขียนคำที่ประสมด้วยสระเปลี่ยนรูปและสระลดรูป กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สำหรับนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 โดยรวมอยู่ในระดับมาก