รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มทักษะวิชาการ(วิชาภาษาไทย) โดยใ
บทคัดย่อ
การวิจัย เรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มทักษะวิชาการ (วิชาภาษาไทย) โดยใช้หนังสือ
เสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (กลุ่มเรียนได้) โรงเรียนพิจิตรปัญญานุxxxล ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การพัฒนาทักษะการอ่าน ก่อนและหลัง โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ประชากร คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง จำนวน 15 เรื่อง และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อน – หลัง แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. การพัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.67/88.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลที่เกิดกับนักเรียนหลังการพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง พบว่านักเรียนมีทักษะการอ่านดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน
มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 84.67
3. การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อหนังสือเสริมประสบการณ์โดยใช้คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีความพึงพอใจต่อหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด
การวิจัย เรื่อง รายงานผลการพัฒนาทักษะการอ่าน กลุ่มทักษะวิชาการ (วิชาภาษาไทย) โดยใช้หนังสือ
เสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 (กลุ่มเรียนได้) โรงเรียนพิจิตรปัญญานุxxxล ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) เพื่อสร้างและหาประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ให้มีประสิทธิภาพตามเกณฑ์ 80/80 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์การพัฒนาทักษะการอ่าน ก่อนและหลัง โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง 3) เพื่อศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่บกพร่องทางสติปัญญา ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 ที่มีต่อการเรียนรู้โดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์ ประชากร คือ นักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4/3 ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2559 จำนวน 10 คน ซึ่งได้มาโดยการเลือกสุ่มแบบเจาะจง (Purposive Sampling) เครื่องมือที่ใช้ในการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง จำนวน 15 เรื่อง และแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อน – หลัง แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จำนวน 30 ข้อ สถิติที่ใช้คือ ค่าเฉลี่ย ค่าร้อยละและค่าส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน
ผลการศึกษาค้นคว้าพบว่า
1. การพัฒนาและหาประสิทธิภาพของหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 มีประสิทธิภาพเท่ากับ 84.67/88.33 ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานที่ตั้งไว้ คือ 80/80
2. ผลที่เกิดกับนักเรียนหลังการพัฒนาทักษะการอ่านโดยใช้หนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง พบว่านักเรียนมีทักษะการอ่านดีขึ้น ซึ่งส่งผลให้นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนด้านทักษะการอ่าน
มีค่าเฉลี่ยร้อยละ 84.67
3. การประเมินความพึงพอใจที่มีต่อหนังสือเสริมประสบการณ์โดยใช้คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 พบว่ามีความพึงพอใจต่อหนังสือเสริมประสบการณ์คำคล้องจอง ชั้นประถมศึกษาที่ 4 อยู่ในระดับมากที่สุด